"เสร็จแล้วก็จะมีการตั้งหน่วยงานเพิ่มขึ้นมา อย่างเช่นว่า อาจจะรวมศูนย์ให้ดูแลกันเป็นภาค ๆ บอกว่านี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เลวร้ายที่สุดในหน่วยงานราชการไทย แล้วเราก็จะเอามาเลียนแบบ เพราะว่าแก้ปัญหาแล้วจะกลายเป็นเพิ่มปัญหา เพิ่มงบประมาณโดยที่งานไม่ได้อะไรเลย เพราะชุดใหม่ก็จะไปตรวจสอบชุดเก่า ชุดใหม่กว่าจะมาตรวจสอบชุดปานกลาง ชุดใหม่ล่าสุดก็จะมาตรวจสอบชุดใหม่ แล้วจะทำอะไรได้ ? งบประมาณก็เปลืองไปเปล่า ๆ
เขาถามว่าแก้วิธีไหน ? ก็แค่อบรมพระเณรของเราให้ละอายชั่วกลัวบาป รักศีลตัวเองก็จบแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปมีคณะกรรมการอะไรมากมาย แต่ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วก็ว่ากันไปตามหน้าเสื่อ เพราะอาตมาไปว่าคนอื่นเขาว่าอบรมพระเณรได้ไม่ดี ตัวเองงานนี้ก็ลักษณะเดียวกัน บวชพระไป ๑๐๘ รูปนี่แทบไม่ได้อยู่ให้พระท่านเห็นหน้าเลย ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเหลือกี่รูป เพราะว่ามีงานต่อเนื่องอยู่ทุกวัน วันไหนมีงานเดียววันนั้นถือว่าดวงดีสุด ๆ
บางทีมอบหมายให้พระท่านไปทำนั่นทำนี่ แล้วท่านก็บอกว่าสู้ไม่ไหว บางรายก็บอกว่าถ้าให้ทำอย่างนั้นแล้วจะสึก เลขาฯ ท่านก็ส่งข้อความมา อาตมาตอบกลับไปว่า “ถ้าจะสึกให้แม่..สึกเดี๋ยวนี้แหละ ถ้ากำลังใจจะเสียสละเพื่อพระศาสนาก็ยังไม่มี มึงอยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์..!” อาตมาเป็นเจ้าอาวาสหรือเป็นพระอุปัชฌาย์ที่ไม่ง้อพระ เพราะว่าปัจจุบันนี้ก็อยู่กันมากเกินไปแล้ว
เราบวชเข้ามา นิพพานัสสะ สัจฉิกิริยายะ เอตัง กาสาวัง คเหตวา ก็คือเราขอรับผ้ากาสาวพัสตร์นี้มาเพื่อทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน การที่จะทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพานได้ต้องแลกกันด้วยชีวิต งานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มอบหมายให้บอกว่าไม่ไหว ถ้าให้ไปจะสึก "อย่างนั้นมึงสึกไปเลย..!
บางทีของบางอย่างเห็นแล้วก็สะท้อนใจ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเราไม่ได้อยู่ให้ศาสนาหรือวัดได้พึ่ง แต่กลายเป็นบวชเพื่อไปพึ่งวัดหรือพึ่งพระศาสนา ผิดวัตถุประสงค์ในการบวชตั้งแต่แรก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-07-2019 เมื่อ 21:51
|