ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 18-03-2009, 15:00
ชินเชาวน์'s Avatar
ชินเชาวน์ ชินเชาวน์ is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 261
ได้ให้อนุโมทนา: 13,956
ได้รับอนุโมทนา 50,689 ครั้ง ใน 1,293 โพสต์
ชินเชาวน์ is on a distinguished road
Default

๑. ตายแล้วฟื้น

ชีวิตของคนเรา มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง และมีความตายเป็นที่สุด ไม่มีใครหลบพ้นความตายไปได้ ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็ก หนุ่มสาว เฒ่าชรา ต่างมีที่สุดคือความตายด้วยกันทั้งนั้น.....

แต่สำหรับบางคนแล้ว ความตายไม่ใช่ที่สุดแห่งชีวิตของท่าน แม้ว่าท่านจะตายไปแบบผู้อื่นก็จริง แต่ท่านก็กลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่ บางท่านก็ตายซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายวาระ แล้วกลับฟื้นคืนมา คืนมาทุกครั้งไป....

ท่านที่ตายแล้วฟื้น ที่มีพยานหลักฐานบันทึกไว้ชัดเจน ให้ผู้อื่นได้ทราบถึงเรื่องราวหลังความตาย ประกอบด้วยพล.ท.สมาน วีระไวทยะ พ.อ.พิเศษเสนาะ จินตรัตน์ และท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพิเศษคือ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) มีคนเป็นจำนวนมากที่ไม่เชื่อเรื่องตายแล้วเกิด มีความเห็นเป็นมิจฉาทิฏฐิ ปฏิเสธเรื่องชาติภพภายหน้า คิดเอาเองว่า นรก สวรรค์ไม่มี แล้วพยายามเสนอคนอื่นให้คล้อยตามความเห็นของตน...

พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ชัดเจนว่า ผลบุญ-ผลบาป ชาตินี้-ชาติหน้า นรก-สวรรค์ นั้นมีจริง แต่ท่านนักปราชญ์เหล่านั้น กล้าค้านแม้คำสอนขององค์สมเด็จพระบรมครูของเรา.... เป็นเรื่องน่าสงสาร ที่ท่านทำตามคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมศาสดาไม่ได้ ท่านก็คิดว่าคนอื่นคงทำไม่ได้ด้วย ความจริงแล้วแม้แต่เด็ก ๆ จำนวนมากก็ทำได้ และมีความสามารถกว่าท่านปราชญ์ใหญ่เหล่านั้นซะอีก...ประกอบกับเรื่องราวของท่านทั้งหลายที่ฟื้นคืนจากความตาย บรรดานักปราชญ์ทั้งหลายนั้น ท่านเหนื่อยเปล่าแล้วกับการสอนผิด ๆ ของท่าน....

ในที่นี้ขอกล่าวถึงการตายแล้วฟื้นของอาตมาเอง ที่เป็นการตายเปล่า ๆ ไม่ได้มีเรื่องราวของชีวิตหลังความตาย มาเล่าสู่กันฟังอย่างผู้อื่นเขา ขณะนั้น....อาตมาเพิ่งจะอายุสองขวบเท่านั้น.... จากคำบอกเล่าของพ่อ-แม่ และพี่ ๆ หลายคน ว่าตอนนั้นอาตมากับพี่สาว (คุณมุกดา เพชรชื่นสกุล) ได้รับแจกท็อฟฟี่จากพ่อ ก็แบ่งกันกิน

พี่มุกดาเขารู้จักแกะเปลือกออกก่อน ส่วนอาตมานั้นไม่รู้ความ... รับท็อฟฟี่มาก็ใส่ปากอมทั้งเปลือก ท็อฟฟี่สมัยนั้นเม็ดโตมาก (ราคาเม็ดละ ๓๐ สตางค์) พออมไปอมมา เปลือกท็อฟฟี่ถูกน้ำลายลื่นเข้าก็ผลุบเข้าไปในหลอดลม อาตมาเลยชักตาตั้ง...! พ่อ – แม่ เห็นอาการของอาตมาเข้าก็รีบล้วงคอจะเอาออก แต่กลายเป็นดันให้ท็อฟฟี่หลุดลึกเข้าไปอีก เลยวุ่นวายโกลาหลไปทั้งบ้าน อาตมานั้นขาดอากาศหายใจ หมดสติไปตั้งนานแล้ว...

เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน คำว่าโรงพยาบาลเป็นสิ่งไกลเกินฝัน ได้แต่พยาบาลกันตามมีตามเกิด เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง อาตมาเขียวไปหมดทั้งตัว ดูด้วยสายตาก็ตายไปนานแล้ว แต่ด้วยความรักของพ่อ-แม่ แม้สภาพจะเป็นถึงเพียงนั้น ท่านก็ไม่ยอมหมดหวัง หันไปพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือบนบานต่อ "จ้าวแม่เบิกไพร" ว่าถ้าอาตมาฟื้นจะยกให้เป็นลูกจ้าวแม่ ๑๐ ปี...

จะด้วยบารมีของจ้าวแม่ หรืออาตมายังไม่ถึงที่ตายก็ไม่รู้ พอพ่อจับร่างอาตมาห้อยหัวลง ตบหลังเข้าอย่างแรง ท็อฟฟี่เจ้ากรรมก็หลุดกระเด็นออกมายังกับปาฏิหาริย์ อาตมาแหกปากร้องไห้จ้า...! แทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่คนหมดลมไปนานขนาดนั้นกลับฟื้นคืนมาอีกครั้ง แต่มันก็เป็นไปแล้ว และจากการที่สมองขาดอ๊อกซิเย่นเป็นเวลานาน ทำให้อาตมาป่วยเป็นโรคลมชักอยู่หลายปี...

ไปกราบฝากตัวเป็นลูกจ้าวแม่ตามสัญญา ตลอดเวลา ๑๐ ปีเสี่ยงเซียมซีได้ใบเดียวกันทุกครั้ง ข้อความมีว่า "ใบที่สิบสองต้องกันเหมือนจันทร์ฉาย เปรียบกับต้นพฤกษีคราวที่ตาย แล้วกลับกลายฟื้นเป็นเหมือนเช่นเดิม...." น่าอัศจรรย์มากที่ข้อความตรงกับชีวิตอาตมาจริง ๆ และการตายครั้งนั้นอาตมาไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตายเปล่า ๆ แล้วก็ฟื้นคืนมา จำไม่ได้จริง ๆ ว่าไปพบอะไรมาบ้าง เพราะยังเด็กเกินกว่าจะจำอะไรได้...

ท่านผู้อ่านทั้งหลาย...ความตายเป็นของไม่แน่นอน ไม่ทราบว่าจะมาถึงตัวเราเมื่อไร ขอทุกคนจงอย่าประมาท เร่งปฏิบัติความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป เพื่อเวลาตายจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี สมกับที่เรามุ่งหวังทุกประการ...

๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓
พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-10-2014 เมื่อ 16:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 259 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา