อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ น้ำค้าง
กราบนมัสการค่ะ หลวงพี่รัตน์
ขอความรู้ค่ะ โปรดสงเคราะห์เกี่ยวกับภาพสุดท้ายด้วยนะคะ จักเป็นพระคุณอย่างสูง
หากกรรมใดที่ได้ประมาทพลาดพลั้งด้วยมิได้เจตนา และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ต่อพระคุณเจ้า ขอได้โปรดอดโทษนั้นให้ด้วยค่ะ
กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูง!  
|
เป็นภาพที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จไปเยี่ยมและสงเคราะห์ พระติสสะ ดังเนื้อเรื่องต่อไปนี้............
พระติสสะ
เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ในเมืองสาวัตถี เวลานั้นองค์สมเด็จพระมหามุนี ทรงปรารภพระปูติคัตติสสะเถระ ตรัสพระธรรมเทศนาว่า
“อะจีรัง วะตะยัง กาโย ปะฐะวิง อะธิเสสะติ” เป็นต้น เนื้อความมีอยู่ว่า
ในเมืองนั้นปรากฏว่า มีกุลบุตรคนหนึ่ง ขณะที่ได้ฟังเทศน์จากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นวาระแรก ก็มีความเลื่อมใส เมื่อมีความเลื่อมใสก็ตั้งใจถวายตนในพระพุทธศาสนา นั่นก็หมายความว่าต้องการจะบวชตลอดชีวิต เมื่อตัดสินใจแบบนั้นแล้วก็ขอบรรพชาอุปสมบทจากพระพุทธเจ้า เมื่อบวชเป็นพระแล้วไม่นานนัก ก็มีกำลังขึ้นฌานโลกีย์ ทรงตัวได้บ้าง ทรงตัวไม่ได้บ้าง กำลังยังไม่มั่นคง
ต่อมาโรคร้ายก็เกิดกับร่างกายของท่าน มันเป็นตุ่มเล็ก ๆ นิด ๆ ทั่วตัว ต่อมาเจ้าตุ่มนั้นก็โตขึ้นเท่าเม็ดถั่วเขียว จากเม็ดถั่วเขียวเท่าเม็ดถั่วเหลือง จากเม็ดถั่วเหลืองก็เท่าผลส้ม หนัก ๆ เข้าก็โตเท่าผลมะตูม มันเต็มตัวไปหมด พอเม็ดต่าง ๆ พองใสโตเท่ามะตูมมันก็แตก แตกทั้งหมดเป็นน้ำเหลืองเยิ้มทั้งร่างกาย ท่านก็ลุกไม่ไหว บรรดาพระทั้งหลายก็ปฏิบัติตามกำลัง ต่อมาไม่ช้าไม่นาน กระดูกของท่านก็แตก คำว่ากระดูกแตกนี่ ตามบาลีไม่ได้บอกว่าแตกส่วนใดส่วนหนึ่ง คงจะแตกทั้งกาย ผ้าก็เลอะเทอะไปทั้งน้ำเหลือง บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายปฏิบัติไม่ไหว เมื่อปฏิบัติไม่ไหวก็พากันทิ้ง ปล่อยรอความตาย