เรื่องงานคณะสงฆ์ของเราต้องบอกว่าไปยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่าบุคลากรที่ทุ่มเทชีวิตเพื่อพุทธศาสนาลดน้อยถอยลง มีทั้งที่เสียชีวิตจากการก่อการร้าย มีทั้งที่เจ็บไข้ได้ป่วยจากกรรมเก่าที่ตัวเองสร้างมา
ท่านพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี อดีตเจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพนั้น คบหากับอาตมามา ๒๖ ปีแล้ว จำได้ว่าเมื่อ ๒๖ ปีก่อนเรามีพันธะสัญญากันที่อุโบสถวัดเขาเข็มทอง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส ด้วยความรู้สึกสลดใจว่าอำเภอแว้ง สุคิริน และสุไหงโกลก ๓ อำเภอ เราหาพระมาทำบุญได้แค่ ๖ รูปเท่านั้น ทำอย่างไรจะให้พระพุทธศาสนาของเราจะเจริญมั่นคงที่ ๓ จังหวัดภาคใต้ ก็ตั้งใจถวายชีวิตกันในพระพุทธศาสนา เพื่อที่จะสร้างความเจริญให้แก่พระพุทธศาสนาของเรา
ปรากฏว่าระยะเวลาผ่านไป ๒๖ ปี เริ่มจากหลวงเถียรทนแรงเสียดทานไม่ไหว...สึก หลวงเขียวตาย หลวงหว่างตาย เหลือแต่อาตมากับหลวงนิล ๒ รูป
ส่วนท่านครูบาเหนือชัยก็ช่วยเหลือสงเคราะห์กันมาเป็นระยะเวลายาวนานไม่ต่างกัน ตอนนี้ท่านก็ทำงานไม่ถนัด เพราะว่าเส้นโลหิตในสมองแตก ร่างกายทำงานลำบากไปซีกหนึ่ง แต่ท่านก็ไม่ได้ท้อถอย ก็ยังคงสู้เพื่อความตั้งมั่นของพระพุทธศาสนา
หลวงหว่างสู้อยู่ในเขตของอิสลาม ครูบาเหนือชัยสู้อยู่ในเขตของคริสต์ อาตมาเองมีหน้าที่เป็นกองหนุน หาเงิน หาของไปส่งให้
ในส่วนครูบาเหนือชัย มีบางปีอาตมาต้องขนข้าวสารขึ้นไป เพราะว่าวัดสาขาท่าน มีถึง ๑๒ - ๑๓ แห่งอยู่ไกลมาก แต่ก็ไม่มากเกินความพยายามของศาสนาคริสต์ เพราะว่าเขาใช้ยุทธวิธีป่าล้อมเมือง เข้าไปตามหมู่บ้านชาวเขา ถ้าหากว่าพระของเราไม่มีวัดอยู่ ก็จะทำให้ศาสนาคริสต์ไม่มีที่ให้เกรงใจ ทำงานของตนเองอย่างเต็มที่ ครูบาท่านทนไม่ได้จึงต้องไปตั้งวัดสาขาไว้ที่โน่นที่นี่ ซึ่งแต่ละแห่งไกลมาก รถยนต์เข้าไม่ถึง รถขับเคลื่อน ๔ ล้อยังไปไม่ได้ ก็ต้องอาศัย ๔ ขา คือขี่ม้าไป จนกระทั่งกลายเป็น Unseen Thailand พระขี่ม้า
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2019 เมื่อ 12:36
|