"แต่ครูบาอาจารย์บ้านเราก็ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่น่าสงสารมาก ทุกวันนี้จะโดนงานเอกสารท่วมตาย จะเอาเวลาที่ไหนไปสอนเด็ก เดี๋ยว มคอ.๒ เดี๋ยว มคอ.๓ เดี๋ยว มคอ.๕ เดี๋ยว มคอ.๗ เดี๋ยวต้องทำ SAR ต้องทำผลงานทางวิชาการ ไม่ทำก็ไม่ได้...เพราะว่าระเบียบบังคับ ต้องมีงานวิจัยอย่างน้อยปีละ ๑ เรื่อง แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปดูแลเด็ก ? แค่งานเอกสารอย่างเดียวก็กินเวลาไปหมดแล้ว  
 
ถึงเวลาเด็กปิดเทอมครูได้ปิดไหม ? จะไปปิดอะไร ถึงเวลาก็ต้องมาตัดเกรด ต้องมากรอกคะแนน ต้องให้เด็กเข้าไปประเมินได้ภายในหนึ่งอาทิตย์ แล้วสมัยนี้ถ้าเด็กเข้าไปดูเกรดไม่ได้ก็เริ่มฟ้องแล้ว กลายเป็นความซวยของครูบาอาจารย์อีก ไม่ผ่านเกณฑ์ประเมิน โดยเฉพาะเงินเดือนไม่พอใช้ เราก็เลยเห็นครูหลายท่านต้องขายประกัน ต้องขายสินค้าขายตรง   
 
ถ้าเอาในอาเซียนของเราด้วยกัน อย่างสิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มาก เงินเดือนครูสิงคโปร์อย่างต่ำ ๆ ๑๒๐,๐๐๐ บาท  บ้านเราทำได้อย่างนั้นไหม ? ถ้าเอาในเอเชียด้วยกันก็เกาหลี เงินเดือน ๒๕๐,๐๐๐ บาท ถ้าบ้านเราเงินเดือนครูได้ขนาดนั้น เราจะได้คนเก่งไว้สอนคนรุ่นใหม่เยอะมาก แต่ว่าบ้านเราเงินเดือนครูน่าสงสารมาก  
 
ส่วนที่น่าสงสารสุดคือครูพระ ครูพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนเงินเดือน ๒,๕๐๐ บาท ต้องทำรายงานส่งต้นสังกัดทุกเดือนว่าสอนที่ไหน สอนอะไร สอนไปกี่ชั่วโมง มีเนื้อหาอะไรบ้าง"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-02-2019 เมื่อ 12:41
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |