ถาม :   คนเราไม่ฆ่าสัตว์เองแต่กินเนื้อสัตว์ที่คนอื่นฆ่ามา ไม่บาปเหมือนกันหรือ แล้วกรรมมันต่างกันอย่างไร ? 
ตอบ :  พระพุทธเจ้ากำหนดลักษณะของการฆ่าซึ่งคนอื่นไม่ได้รู้ชัดเอาไว้   ท่านว่า  ๑. สัตว์นั้นมีชีวิตอยู่   ๒. เรารู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตอยู่   ๓. เราพยายามฆ่า   ๔. สัตว์นั้นชีวิตตกล่วงไปจากความพยายามนั้น  ถ้าครบทั้ง  ๔  อย่างนี้ถือว่าเรากระทำการฆ่าสัตว์  ผิดร้อยเปอร์เซ็นต์  แล้วการที่เราไปกินเนื้อสัตว์ที่เราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับ  ๔  ข้อนี้ผิดตรงไหน ?  
 
ถาม :   เวลาถือศีล สมาทานศีลว่าไม่ฆ่าสัตว์ แต่เรากินเนื้อสัตว์ มันแตกต่างกันหรือ ? 
ตอบ :  แบบเดียวกัน  เรากินเนื้อสัตว์  เรารู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ? ก็นอนตายอยู่ในตลาดแล้ว   เราก็รู้ว่าไม่มีชีวิต   เราลงมือฆ่าหรือเปล่า ?  ก็ไม่ได้ทำ   สัตว์นั้นตายเพราะการฆ่าของเราหรือเปล่า ?  ก็ไม่ได้ตายเพราะเรา   
 
ถาม :   คนที่ไปล่าสัตว์มากินเป็นอาหาร ต่างกับคนที่รอซื้อเนื้อสัตว์มากินอย่างไร ? 
ตอบ :  คนที่ล่าสัตว์ย่อมรู้ว่าสัตว์นั้นมีชีวิตอยู่   ตั้งใจฆ่า ลงมือฆ่าและฆ่าได้สำเร็จ   
 
ถาม :   คนที่เขาอยู่ที่ถิ่นกันดาร ต้องหาอาหารเอง ไปล่าสัตว์เอง ไม่บาปแย่เลยหรือ ? 
ตอบ :  ไม่แย่เท่าไรหรอก  ก็บาปเท่าที่ทำแค่นั้นแหละ
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
	
	 |