อย่างที่วิเคราะห์เมื่อเช้าว่า คนที่มาวัด มาด้วย ๕ ประการด้วยกัน ประการที่หนึ่ง อยากได้หวย มาเอาหวยอย่างเดียวจริง ๆ จะยืนจะนั่ง จะยืน จะนอน จะอึ จะฉี่ เขาตีเป็นหวยหมด  
  
ประการที่สอง มาเพราะอยากได้เครื่องรางของขลัง แล้วคนเหล่านี้มีเป็นจำนวนมากด้วย ต้องเรียกว่าถึง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป 
  
ประการที่สาม มาเพื่อให้ได้ชื่อว่า พระที่มีชื่อเสียงรูปนี้ เราก็เคยไปกราบมาแล้ว ไปคุยกับเขาได้ว่าเคยไปวัดนี้มาแล้ว  
  
ประการที่สี่ มาแบบโง่เซ่อ ไม่รู้ว่าเขามาทำอะไร เพื่อนลากมาก็มา มาถึงก็มาถามว่าหลวงพ่อวัดนี้ชื่ออะไร ท่านเก่งอย่างไร พวกนี้มีเยอะด้วย 
  
ประการสุดท้าย มาเพราะต้องการธรรมะ หายากสุด ๆ มี ๕ เปอร์เซ็นต์หรือ ๑๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ดีใจตายแล้ว  
  
ทำอย่างไรที่คนทั้ง ๕ ประเภทนี้ พอเข้าวัดมาแล้วเขาจะได้ในส่วนที่เขาต้องการ เพราะฉะนั้น..หากต่อไปเป็นเจ้าอาวาสที่ไหน คุณบริหารวัดต้องนึกถึงหลักการนี้ ต้องสามารถตอบสนองความต้องการของชาวบ้านได้ทุกรูปแบบ  
  
แต่ว่าปัจจุบันศาสนาของเราเลี้ยวผิดทาง พอเลี้ยวผิดทางก็กลายเป็นไปไขว่คว้าหา ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ใครจะสร้างโบสถ์ได้ใหญ่กว่า แพงกว่า ใครจะจัดงานปิดทองฝังลูกนิมิตแล้วได้เงินเยอะกว่า ใครจะมีรถ ยี่ห้อดีกว่า แพงกว่า ใครจะมีลูกศิษย์ใหญ่กว่า รวยกว่า และโดยเฉพาะในเรื่องของการทำบุญ เคยเตือนโยมไว้หลายท่าน ว่าถ้าเราค่อนข้างจะมีฐานะ ให้ระมัดระวังเรื่องการให้ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์แก่พระไว้  
  
อาตมาเจอมาเองมากต่อมากด้วยกัน พอถึงเวลาพระทั้งหลายเหล่านี้จะโทรตามตลอด อาตมาใช้คำว่าโทรจิก "ตอนนี้วัดมีงานนะโยม ช่วยรับเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสักกองหนึ่ง" "ตอนนี้วัดมีงานตัดลูกนิมิต โยมจ๋า ช่วยรับเป็นเจ้าภาพมีดตัดหวายลูกนิมิตสักเล่มหนึ่งเถอะ" ราคาเป็นหมื่นเป็นแสนเลย "ตอนนี้กำลังสร้างศาลาโยม รับเป็นเจ้าภาพเสาสักต้นนะจ๊ะ" ด้วยความที่เขามาถึงที่แล้ว และตัวเองก็มีกำลังพอที่จะทำ แม้จะไม่มีความตั้งใจหรือศรัทธาอย่างแท้จริง พอโดนตื๊อมาก ๆ เข้า ก็ให้ในลักษณะซื้อรำคาญ  
  
สิ่งทั้งหลายเหล่านี้มีแต่จะสร้างความมัวหมองให้แก่พระพุทธศาสนา คนที่จะเลื่อมใสพอเจอลักษณะอย่างนี้เข้าก็ถอยหลัง ส่วนคนที่ยังไม่เลื่อมใสก็ "อ๋อ..ที่แท้อย่างนี้เอง" ไปก็ไม่ได้อะไร แถมยังจ่ายตลอด ก็เลยหันหลังให้วัด พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า สนิมเหล็กมันเกิดจากเนื้อในของตน บุคคลที่จะทำลายพระพุทธศาสนาได้มีอย่างเดียวก็คือ พุทธบริษัททั้ง ๔ ปัจจัยภายนอกทำลายพุทธศาสนาไม่ได้หรอก 
  
  
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์ 
วันศุกร์ที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๒
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2013 เมื่อ 10:20
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |