อย่างเช่นอิสลาม  ศาสนาอิสลามเผยแผ่ศาสนาได้เร็วมาก กว้างขวางมาก เพราะว่าทุกคนเป็นนักเผยแผ่หมด  เขาไม่ได้มีนักบวชที่ทำหน้าที่โดยเฉพาะ  แต่ว่าทุกคนของเขาทำหน้าที่นี้  แต่ศาสนาพุทธของเรา  ถ้ารอนักบวชอย่างเดียวทำหน้าที่  จะมีสภาพอย่างที่หลวงพ่อสมเด็จฯ ท่านบอก   คือ ท้ายสุดจะไม่เหลืออะไรเลย   
 
ศาสนาพุทธเสื่อมสูญจากอินเดีย  เพราะว่านักบวชแต่งกายอย่างนี้ (ห่มผ้าเหลือง)  แยกตัวออกจากชาวบ้าน   มีสถานที่อยู่เฉพาะของตน   ถึงเวลาข้าศึกยกทัพไปล้อม  กวาดพระจนราบ   แต่พวกพราหมณ์อยู่กับครอบครัว  ทุกคนมีสภาพเหมือน ๆ  กัน แยกไม่ออก  เพราะฉะนั้น..หลังจากมุสลิมหมดอำนาจในอินเดีย  ศาสนาพราหมณ์จึงฟื้นตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  แต่ศาสนาพุทธเงียบ..     
 
เพราะเราไปฝากความหวังไว้กับนักบวชอย่างเดียว  ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าฝากความหวังไว้กับพุทธบริษัททั้ง  ๔  หลวงปู่ขอม  วัดไผ่โรงวัว  ท่านสร้างรูปพระสงฆ์เดินนำ  โดยมีภิกษุณีที่อยู่ในสภาพนักบวชหญิง  หรืออาจจะเป็นแม่ชีก็ได้  และก็มีฆราวาสทั้งชายและหญิงช่วยกันเข็นธรรมจักรตามหลัง  นั่นคือสิ่งที่หลวงปู่แสดงให้เห็นชัด ๆ  ว่าพระพุทธเจ้าฝากกิจการพระศาสนานี้ไว้ในมือของพุทธบริษัททุกบริษัท  ไม่ใช่เฉพาะภิกษุบริษัทเท่านั้น   
 
นอกจากนี้  การเผยแผ่พระพุทธศาสนาสมัยก่อนและสมัยนี้ต่างกันมหาศาล  ก็เพราะว่าพระสมัยก่อนท่านเป็นพระอรหันต์  เป็นผู้บริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง  เป็นผู้ปฏิบัติที่ได้ผลอย่างแท้จริงแล้ว  สามารถบอกหลักการตั้งแต่ต้นยันปลายได้โดยไม่มีข้อผิดพลาด  ไม่มีสิ่งใดให้เคลือบแคลงในความบริสุทธิ์ของ กาย วาจา ใจ ของท่าน  คนก็ศรัทธาง่าย  แต่สมัยนี้ อย่างที่โยมเขาถามเมื่อตอนบ่าย  ว่าเขามาบอกบุญแล้วผมไม่ทำบุญ  ก็เพราะว่าหวาดระแวง  ไม่รู้ว่าพระเอาเงินไปทำบุญอย่างที่บอกหรือไม่  มาหลอกลวงเราหรือไม่  อันนั้นเสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย  ฝ่ายที่บอกบุญเสียกำลังใจ  อุตส่าห์ลงทุนลงแรงเข้าไปหา  แต่เขาไม่ทำบุญด้วย  ส่วนฝ่ายที่ไม่ทำบุญ เสียโอกาสในการสร้างบุญของตัวเองไป  ถ้าหากตายเสียตั้งแต่ตอนนั้น  โอกาสที่จะทำบุญให้มากกว่านี้ก็ไม่มี   
 
ในเมื่อภิกษุบริษัทซึ่งเป็นผู้เผยแผ่พุทธศาสนาในปัจจุบันของเรา    ยังไม่สามารถที่ประกอบความดีเป็นที่ไว้ใจได้อย่างทั่วถึง  ทำอย่างไรที่จะให้โยมเขาเชื่อว่าสิ่งที่เราบอกนั้นเป็นความดี  ว่าสิ่งที่เราทำนั้นเรากำลังเร่งทำความดี  ต่อให้ยังไม่สำเร็จก็ตาม  แต่ถ้าหากว่าเราตั้งใจทุ่มเทจริง ๆ  ให้คนเขาเห็น...เขาก็ศรัทธาแล้ว   
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-12-2013 เมื่อ 10:13
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |