
15-10-2009, 13:55
|
 |
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,779 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
|
|
ต่อมาท่านธมฺมวิตกฺโกได้ถูกโรคร้ายเข้าคุกคาม
คือโรคมะเร็ง ท่านธมฺมวิตกฺโกเป็นโรคมะเร็งกรามช้างจนเน่าเฟะ แต่ท่านก็มิได้แสดงความเจ็บปวดรวดร้าว
ให้ปรากฏแก่สายตาภิกษุสงฆ์ และประชาชนที่พบเห็นเลยแม้แต่น้อย ท่านมีอาการเป็นปกติธรรมดาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ท่านลงอุโบสถทำวัตรเช้า-เย็นเป็นประจำเสมอมิได้ขาดเลย แต่แล้วอยู่ ๆ โรคร้ายที่เกาะกุมท่านธมฺมวิตกฺโกก็อันตรธานหายไปเอง
โดยท่านมิได้ไปหาแพทย์ให้รักษาหรือฉันหยูกยาแต่ประการใดเลย
โรคมันเกิดขึ้นมาเอง มันก็ต้องหายไปเองได้เช่นกัน
ท่านธมฺมวิตกฺโกพูดอยู่เสมอ ยิ่งนับวันเสียงลือเสียงเล่าอ้างทางด้านอภินิหารต่าง ๆ ของท่านก็แพร่สะพัดไปทั่วทุกสารทิศว่า
ท่านท่านธมฺมวิตกฺโกเป็นพระภิกษุสงฆ์รูปเดียวในปัจจุบันนี้ที่สำเร็จอรหันต์แล้ว
จึงมีประชาชนจำนวนมากใคร่อยากจะเข้าพบเพื่อนมัสการ แต่ก็หาเวลาพบท่านได้เพียง ๒ เวลาเท่านั้น คือตอนทำวัตรเช้าและเย็น
ซึ่งก็มีเวลาสนทนากันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนมากท่านจะคุยเรื่องธรรมะและอบรมสั่งสอนให้ประกอบและประพฤติในทางดีทั้งสิ้น
ผู้ใดได้เข้าพบปะสนทนากับท่านธมฺมวิตกฺโกแล้ว ผู้นั้นจะรู้สึกจิตใจสดชื่นเบิกบานแจ่มใสอย่างบอกไม่ถูก
เสียงลือเสียงเล่าอ้างนี้เองที่ล่วงรู้ถึงหูชาวจีนผู้หนึ่ง ซึ่งยากจนมากอยากจะเข้าพบนมัสการท่านธมฺมวิตกฺโก บ้าง
พยายามเพียรมาพบที่พระอุโบสถหลายครั้ง แต่ก็เข้าไม่ถึงองค์ท่านเลยสักครั้ง
จีนผู้นั้นจึงได้ตัดสินใจมาดักพบที่กุฏิตอนเช้า ก่อนที่ท่านจะลงทำวัตรเช้า เมื่อพบท่านชาวจีนผู้นั้นก็ก้มลงกราบที่หน้าประตูและกล่าวว่า
อยากจะมาขอพร เพราะยากจนเหลือเกิน ทำมาค้าขายก็มีแต่ขาดทุน
ท่านธมฺมวิตกฺโกได้ฟังชาวจีนพูดจบลงแล้ว ท่านจึงเอากะลาขัดตักน้ำมาพรมให้ชาวจีน และพูดว่า
"ไปได้ คราวนี้จะรวยใหญ่"
และเป็นจริงอย่างที่ท่านให้พรทุกประการ เพราะหลังจากนั้นเป็นต้นมา ชาวจีนผู้นั้นก็ทำมาค้าขายเจริญงอกงามขึ้นเป็นลำดับจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้
|