การสักยันต์
ถาม : สักยันต์ของท่านอาจารย์หนูใช้ได้หรือเปล่า ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าเราจริงจังแค่ไหน ? เรื่องยันต์หรือวัตถุมงคลของขลังอะไรก็ตาม สำคัญตรงกำลังใจคนใช้ ถ้าหากว่าให้ความศรัทธาเลื่อมใส ปฏิบัติโดยสม่ำเสมอตามสิ่งที่เขาบอก หรือระมัดระวังในสิ่งที่เขาห้าม ผลก็จะเกิดเอง
ถาม : ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนที่สักหรือครับ ?
ตอบ : คนที่สักเขาตั้งใจสักอยู่แล้ว ก็เหมือนกับเปิดเครื่องส่ง สำคัญตรงใจเราที่เป็นเครื่องรับ ถ้าเครื่องรับปิดสนิท เครื่องส่งดีแค่ไหนก็เจ๊ง..!
ถาม : แล้วเสือตัวนั้น (วัตถุมงคล) จะให้คุณทางไหนครับ ?
ตอบ : อยู่ที่เราอธิษฐาน เรื่องของบารมีพระจะเอาอย่างไรก็ได้ สำคัญตรงที่กล้าจริงหรือเปล่า ? อย่างหลวงปู่ธรรมชัยท่านส่งข้าวตอกพระร่วงมาให้ ท่านบอกว่ากันงูได้ อาตมาไปเจองูเขียวหางไหม้ตัวเบ้อเริ่มเลย ม้วนขดอยู่ตรงศาลาหลวงพ่อ ๔ พระองค์ ในเมื่อกันงูได้ใช่ไหม...ก็จับเลย เป็นคุณจะกล้าไหม ?
เราต้องเชื่อมั่นจริง ๆ ถ้าไม่มีตัวศรัทธานี่ เรื่องทุกอย่างแทบจะไปไม่ได้ เพราะว่าอินทรีย์ ๕ พละ ๕ ขึ้นด้วยศรัทธาทั้งหมด ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา ความเชื่อต้องมาก่อน จึงจะมีความพากเพียรที่จะทำ ในเมื่อมีความพากเพียรทำ ปฏิบัติไปสติก็จะมีความสมบูรณ์ขึ้น ในเมื่อสติมั่นคงสมบูรณ์ สมาธิก็จะทรงตัว ปัญญาก็จะเกิดขึ้น พระพุทธเจ้าท่านให้ธรรมะมาสารพัดหมวด แต่ว่าถ้าเราปฏิบัติได้จริง ๆ แล้ว เข้ากันได้ทุกหมวด ไม่มีค้านกันหรอก ท่านเป็นสุดยอดอัจฉริยะจริง ๆ วิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของท่านเกินคนอื่นไปกี่ล้านเท่าก็ไม่รู้ แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ไม่มีขัดกันเลย เนื้อหาสอดคล้องกันหมด ตั้งแต่ต้นยันปลาย
ถาม : แล้วอย่างนี้คนที่ไม่เคยสักเลย มีความเชื่อว่าเขาเหนียว แล้วจะเหนียวจริงหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจทรงตัวมั่นคงพอ...ก็เหนียว เพราะว่ากำลังใจของเราก็คือตัวสมาธิ ตัวฌานสมาบัติ กำลังของฌานสมาบัติจริง ๆ สามารถคุ้มร่างกายได้
ถาม : แสดงว่าเรื่องสักยันต์นี่มาจากคนที่มีความเชื่อ จึงมีการสัก ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าทุกอย่างต้องเกิดจากความเชื่อ แต่ก็เป็นกุศโลบายของคนโบราณ เป็นภูมิปัญญาของเขาที่ปรับเอาไสยศาสตร์และพุทธศาสตร์มาเข้าด้วยกัน จากคาถาอาคมที่ไม่เป็นท่า ก็เป็นหัวใจคาถาต่าง ๆ เข้ามา จริง ๆ แล้วแฝงด้วยธรรมะยันพระนิพพานเลย เพียงแต่ว่าคนทำ ทำได้แค่ไหน
ถาม : วันนั้นผมไปเก็บศพกัน เขาบอกว่าหนังศพนี่เละหมด เหลือตรงที่สักยันต์ไม่เน่า อันนั้นอยู่ที่..?
ตอบ : สองอย่าง อย่างแรกสิ่งที่เขาสักอาจเป็นน้ำมันว่านบางอย่าง น้ำมันว่านบางอย่างจะช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน เผาไฟยังไม่ไหม้เลย ส่วนอีกประการหนึ่งโบราณเขาเชื่อว่าถ้าโดนคุณไสยแล้ว เนื้อตรงนั้นจะไม่ไหม้ สัปเหร่อสมัยก่อน กลายเป็นคนกินเนื้อคนมาเสียเยอะแล้ว พอไปเจอเนื้อที่ไฟไม่ไหม้ ก็จัดการเอาเนื้อมากินเลย เขาเชื่อว่ากันคุณไสยได้ ทำอย่างกับฉีดวัคซีน
ถาม : ที่เมื่อก่อนเขาบอกว่า แผนเข้าวิชาไสยศาสตร์ ให้อมหัวแม่โป้ง (นิ้วเท้า) คนที่มีวิชา ?
ตอบ : สำคัญว่าคุณมีศรัทธาขนาดนั้นหรือเปล่า ? ถ้าคุณศรัทธาและเชื่อมั่นขนาดนั้น เขาก็ให้ เป็นการทดสอบกำลังใจเราโดยตรง ดูว่ามีวิจิกิจฉาหรือเปล่า ถ้ายังสงสัยยังลังเลอยู่ ก็ไม่เชื่อหรอก คิดว่าเขาหลอกเราอมหัวแม่ตีน..!
ถาม : แล้วถ้ามีคนบอกว่าผมโดนคุณไสย แล้วผมเชื่อว่าผมไม่โดน จะช่วยได้ไหม ?
ตอบ : ถ้าหากว่ากำลังใจของคุณมั่นคงพอก็ช่วยได้ แต่ว่าไม่ได้หมายความว่าจะหาย
ถาม : ถ้าโดนจริง ๆ ?
ตอบ : ถ้าโดนจริง ๆ เราก็ยังไปได้ ในขณะเดียวกันคนที่โดนแล้วกำลังใจไม่พอก็หมอบกระแตเลย
พระวัดท่าซุงถาม-ตอบโดยพระครูธรรมธรเล็ก
ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันศุกร์ที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๒
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-05-2014 เมื่อ 02:39
|