| 
 
			
			สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ที่กล่าวถึง เพื่อให้ท่านสังวรไว้ว่า ในการปฏิบัติของเราถ้าหวังความก้าวหน้าจริง ๆ อย่าปล่อยให้สภาพจิตของเราฟุ้งซ่านไปสู่อารมณ์อื่น พยายามรักษาให้อยู่กับการภาวนาให้นานที่สุดในแต่ละวัน
 ถ้าประคับประคองรักษาได้ข้ามวันข้ามคืนยิ่งดี สภาพจิตจะเข้าสู่ภาวะของพุทโธ คือ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จะตื่นหรือจะหลับ มีสติรู้เท่าทันกิเลส กิเลสไม่สามารถกินใจได้ทั้งหลับและตื่น สภาพจิตจะผ่องใสยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะว่าอกุศลกรรมใหม่เกิดไม่ได้
 
 เมื่อเราขยันทำความดีไปเรื่อย ก็เหมือนกับเติมน้ำจืดลงในน้ำทะเล ท้ายที่สุดความเค็มก็หายไปเหลือแต่ความจืด คือความชั่วหายไปเหลือแต่ความดีเท่านั้น  หลังจากนั้นเราค่อยมาละดีกันอีกทีหนึ่ง
 
 ลำดับต่อ ไปขอให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
 
 
 พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
 เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
 วันเสาร์ที่ ๔  สิงหาคม  ๒๕๖๑
 (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย คะน้า)
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-08-2018 เมื่อ 20:22
 |