กระแสพระนิพพาน(ต่อ)
ที่จริงแล้วพระโสดาบันนะ เอกพิชีหรือว่าสกิทาคามีไม่มีใครเขาลงมาเกิดหรอก อย่างมากเขาลงมายืนฟังธรรมที่ควรส่วนข้างหนึ่ง นอกจากองค์ที่อธิษฐานลงมารับใช้สนองงานพระพุทธเจ้า อย่างท่านพระมหากัสสปะ พระมหาเถระแต่งงานแต่เล็กแต่น้อยแล้วก็แยกกันไป.. สามีก็แยกไปทางภรรยาก็แยกไปทาง ต่างคนต่างเป็นพระอริยะลงมาแล้วได้สมาบัติ ๘ มาแล้ว ฟังธรรมของพระพุทธเจ้าครั้งเดียวเป็นปฏิสัมภิทาญาณ ไม่มีใครเขามาเล่นขี้เล่นเยี่ยวอีก ใช่ไหมลูก? ก็เลื่อนเป็นระดับนี้
ถ้าเป็นพระอนาคามีแล้วตายขึ้นไปปั๊บ! ยังไม่ใช่พระอรหันต์เขาไม่ลงมาเลย.. แม้กระทั่งมาหุงข้าวใส่บาตรพระหรือมาถวายหิริโอตตัปปะพระก็ไม่เอาแล้ว เรื่องร่างกายขันธ์ ๕ นี่ เขาก็ไม่เอาแล้ว เหลือตัวทิฐิมานะ ตัวนามธรรม ตัวรูปฌาน อรูปฌาน ตัวอะไรที่เป็นอารมณ์ละเอียด ซึ่งยังความปลื้มใจให้เกิดโดยไม่ต้องอาศัยรูป เขายังติดอยู่เขาต้องไปพิจารณาข้างบน
ถ้าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระอรหันต์เทศน์นี่ท่านจะลงมาเพื่อมาล้างตัวนามธรรมอันเป็นกุศลที่เป็นอุปาทานนั้นออกแต่ว่าขึ้นมาบนทางนี้แล้ว จะยังใช้ชีวิตได้ตามลำดับขั้น ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้เงินไม่ได้ จะจับเงินไม่ได้ จับตัวผัวตัวเมียตัวลูกไม่ได้ ไม่ใช่ ๆ หอมกันฟอดหนึ่งกันไปเถิด แต่ว่าคนเดียว พอไปถึงขั้นกลางแล้วชักยุ่งแล้ว กลั้นใจหอมแล้ว นี่ก็ปลอดภัยจากอบายเวียนไม่รู้จักจบ เขาเรียกวัฏฏะ
(มีต่อ)
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-10-2009 เมื่อ 10:03
เหตุผล: แก้จาก ภรรายา เป็น ภรรยา
|