"เซ็น มาจากคำว่า เทียน ของภาษาจีน แล้วก็มาจากสันสกฤตว่า ธยาน หรือบาลีที่ว่า ฌาน เป็นการถ่ายทอดระหว่างใจสู่ใจ สามารถรู้แจ้งฉับพลัน ที่เรียกว่า ซาโตริ มีแม้กระทั่งนักการศาสนาญี่ปุ่นก็นั่งถกเถียงกันไม่รู้จักจบ บางคนก็บอกว่าซาโตริ คือการรู้แจ้งฉับพลันมีได้ครั้งเดียว อีกคนหนึ่งบอกว่ามีได้หลายครั้งเพราะผมเองนี่แหละผ่านมาแล้ว
เถียงกันไปเถียงกันมาโดยที่ไม่รู้ว่า การบรรลุธรรมในพระพุทธศาสนามีอย่างน้อย ๘ ขั้น ตั้งแต่โสดาปัตติมรรคไปยังอรหัตผล เพราะฉะนั้นถ้าคุณซาโตริไปถึงระดับสุดท้ายก็ทีเดียวจบเลย แต่ถ้าเริ่มตั้งแต่โสดาปัตติมรรคก็คงจะได้ซาโตริกันอีก ๗ - ๘ ครั้ง นักการศาสนาเขามองข้ามจุดนี้ไปก็เลยเถียงกันไม่จบ
หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า สมัยสงครามสถานทูตญี่ปุ่นนิมนต์ให้ท่านไปสวดมนต์ฉันเพลที่นั่น โดยที่ฎีกานิมนต์บอกว่า ถ้ามีภรรยาให้พาไปด้วย หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่า "เสียท่า...หาไม่ทัน อุตส่าห์เปิดกว้างให้พาเมียไปด้วย ดันไม่มี"
แต่ว่าปัจจุบันนี้เรื่องข่าวคราวอะไรต่าง ๆ พวกนี้ไปถึงกันหมดแล้ว ก็เลยทำให้ประเทศอื่น ๆ เขารู้ว่าพระไทยเราต้องปฏิบัติตัวอย่างไร หลวงพ่อพระพรหมบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยไปมอบปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ให้เจ้าอาวาสวัดพระหยกที่เซี่ยงไฮ้ ก็ไปกับคณะพระหลายรูป และอาจารย์ มจร.หลายท่าน พอท่านกลับมา อาตมาก็สอบถามอาจารย์ที่ไปด้วยว่าตกลงได้กินข้าวเย็นไหม ? ท่านอาจารย์ก็พูดขำ ๆ ว่า การปฏิบัติของเรานี่เขารู้หมดแล้ว ก็เลยได้แค่น้ำชากาเดียว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2017 เมื่อ 05:02
|