"แต่ก็มีคนไทยจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะข้าราชการที่ใช้วาจาแรง ๆ ในลักษณะที่ว่า  ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเองแล้วไปยุ่งทำไม ? ซึ่งคนประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้ว ตัวเองก็ไม่เคยสร้างความเจริญให้แก่สังคม เมื่อเห็นคนอื่นทำให้สังคมดีขึ้น ก็กลายเป็นว่าเดือดเนื้อร้อนใจ เอาแค่ว่าโรงพยาบาลทั้ง ๗ แห่ง ต้องการงบประมาณ ๗๐๐ ล้านบาท ในการพัฒนาโรงพยาบาลให้ทันสมัย มีเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อม เขาก็รับไม่ได้ เพราะว่าถ้าให้เขาของบประมาณจากส่วนกลางแล้วมาทำเมื่อไร  จะมีในส่วนที่เรียกว่า ‘เงินทอน’ ไปถึงมือเยอะมาก  
 
ในเมื่อตูนเป็นคนมาทำ ส่วน "เงินทอน" ที่เขาจะพึงมีพึงได้ก็ไม่มี ก็เลยทำให้เขาออกมาพูดจาแรง ๆ แบบไร้สติ ท้ายที่สุดก็โดนสังคมถล่มจมธรณีไป  
 
ก็ต้องบอกว่าในเรื่องของบ้านเราเมืองเรา ต้องมีคนกล้าคิด กล้าพูด กล้าทำ ในลักษณะของตูน ที่ไม่ย่อท้อแม้ว่ากระแสที่ต่อต้านมีมาก แต่ก็พยายามที่จะฝ่าฟันไป ให้เขาเห็นความจริงใจของตัวเอง ว่าไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศส่วนตน หากแต่อาศัยชื่อเสียงเกียรติยศส่วนตน ในการชักจูงผู้อื่นให้ร่วมทำงานนั้นให้สำเร็จ  
 
เรื่องทั้งหลายเหล่านี้พวกเราต้องแยกแยะให้ออก เพราะว่าปกติตูนก็มีชื่อเสียงเพียงพอ เป็นที่รู้จักทั่วประเทศอยู่แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องมาทำตรงจุดนี้คนก็รู้จักเขาอยู่แล้ว ยกย่องเขาอยู่แล้ว แต่เขาออกมาทำโดยอาศัยชื่อเสียงเกียรติภูมิส่วนตัว ในการชักจูงผู้อื่นให้ร่วมกันสร้างความดี โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาแบบนี้ เราเพิ่งจะสิ้นในหลวงรัชกาลที่ ๙ ไปไม่นาน ประเทศชาติของเรายังหวั่นไหวระส่ำระสายอยู่ เหมือนอย่างกับครอบครัวที่ขาดเสาหลักไป  
 
เมื่อมีคนออกมาชักจูงให้ร่วมกันทำในสิ่งที่ดี ๆ แล้วทุกคนสมัครสมานสามัคคีพร้อมใจกันทำ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่สมควรจะได้รับการยกย่องมากกว่าที่จะตำหนิติเตียน เรื่องพวกนี้เรามีโอกาสก็ไปช่วยกัน"
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2017 เมื่อ 02:57
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |