ดารา นักร้อง นักแสดงส่วนใหญ่ตกนรก
ถาม : เมื่อกี้ผมเล่าให้น้องเขาฟังครับ เรื่องดารา ถ้าไม่เคยทำบุญอย่างอื่น ตกนรกหมดเพราะทำให้คนยึดติด ก็รู้สึกเอ๊ะ..ในเมื่อดาราเขาทำสัมมาอาชีวะแล้ว ทำไมต้องไปตกนรกด้วย ในเมื่อถ้าเขาไม่ทำเขาก็ไม่มีกิน ?
ตอบ : เพราะเป็นมิจฉาทิฏฐิ คือ สิ่งที่เขาทำนั้นค้านกับธรรมะที่แท้จริง เพราะว่าสิ่งที่เขาทำเป็นมายา ทำให้คนหลงไปยึดติดอยู่
สังเกตไหมว่า นางอิจฉาเข้าไปในตลาด ดีไม่ดีเจอเปลือกทุเรียนตบ หรือไม่ก็รองเท้าขว้างเอา นั่น..คนเขายึดขนาดนั้น
พระพุทธเจ้าสอนให้ละ พวกนี้ทำให้ยึด จึงตรงกันข้ามกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน เรียกว่ามิจฉาทิฏฐิ โทษของมิจฉาทิฏฐินี่หนักมาก ไปอเวจีที่เดียว น่าสงสารมากเลย
ในพระไตรปิฎกก็มีอยู่ คือ พระตาลปุตตคามินีเถระ ท่านเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก ได้รับการอบรมมาจากวงการนักแสดงไว้ว่า บุคคลที่สร้างความรื่นเริงให้แก่ผู้อื่น จะได้เป็นสหายของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ก็คือว่าจะได้ไปเกิดที่นั่น ภาษาบาลีฟังยาก ต้องแปลเป็นไทยอีกทีหนึ่ง ท่านก็ยึดมั่นในจุดนั้นเรื่อยมา
คราวนี้พอไปเปิดการแสดงที่เมืองสาวัตถี ได้ยินมาว่าพระสมณโคดมทราบเรื่องทุกอย่าง ได้โอกาสก็เข้าไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า สิ่งที่ทำมาจะทำให้ได้เกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จริงไหม ? พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ดูก่อน..มายากร อย่าเพิ่งให้เราพยากรณ์เลย ท่านถามถึง ๓ วาระ พอถึงครั้งที่ ๓ พระพุทธเจ้าจึงตอบว่าลงอเวจีมหานรก..!
คราวนี้ดีตรงที่ว่าท่านเชื่อ นั่งร้องไห้เลย ถามว่าทำอย่างไรถึงจะรอดได้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ต้องบวชแล้วปฏิบัติธรรม ไม่นานท่านก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เป็นอันว่ารอดไป ถ้าไม่เชื่อก็ซวย..!
คราวนี้ของเราก็มีตัวอย่างอยู่ ดาราวัยรุ่นที่ตาย ดูสิว่าคนไปงานศพกี่หมื่น ? ถ่ายรูปลงหนังสือพิมพ์ออกมาเห็นแล้วตกใจ เขาทำให้คนติดได้ขนาดนั้น แล้วดาราเพลงร็อกของญี่ปุ่น มากันที คนแห่กันไปดอนเมือง รถติดบรรลัยวายวอดเลย นั่น..คนติดขนาดไหน ? แต่เป็นการยึดในทางที่ผิด จริง ๆ แล้วการปฏิบัติต้องปล่อย ถ้ายึดเมื่อไรก็ติดอยู่แค่นั้นแหละ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2013 เมื่อ 15:05
เหตุผล: ตัดคำว่าตื้อออก
|