
06-06-2017, 03:25
|
 |
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,062
ได้ให้อนุโมทนา: 284,214
ได้รับอนุโมทนา 854,777 ครั้ง ใน 13,218 โพสต์
|
|
วันนี้จะได้นั่งจรวดติดราง (ภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ถ่ายรูปจนไม่มีอะไรเหลือให้ถ่ายแล้ว อาตมาก็กดลิฟท์ลงไปที่ห้องพัก จัดการแปรงฟันแล้วเก็บของลงกระเป๋า หอบเอาไปวางไว้ที่หน้าห้อง เหลือกระเป๋าโน้ตบุ๊กกับกระเป๋าใบที่หูขาดติดตัวลงมาถึงชั้นหนึ่ง เจอหลวงพ่อเจ้าคุณสมุทรฯ หลวงพ่อพระครูเรือง ท่านไพฑูรย์ พระครูปรีชา นั่งรอกันอยู่ที่ชุดรับแขก ตรงใกล้ประตูมีกระเป๋าของพวกเราที่พนักงานยกลงมาแล้วส่วนหนึ่ง อาตมาถามดูว่ามีใครจะคืนกุญแจบ้างไหม ? ปรากฏว่าทุกท่านคืนไปแล้ว จึงต้องกลับขึ้นชั้นสองไปที่ล็อบบี้คนเดียว ซึ่งไม่เจอ “หนูอวบ” ที่น่าจะออกเวรไปแล้ว จึงเอาบัตรกุญแจคืนให้กับพนักงานที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์แทน...
พอกลับหลังหันก็เห็นบันไดลงชั้นล่างซึ่งกว้างทีเดียว จึงเดินลงมาหาพรรคพวกที่ชั้นหนึ่ง ใครจะไปรู้ว่าบันไดที่เหมือนกับอยู่กลางซอกตึกจะพาขึ้นไปที่ล็อบบี้ได้ เพราะปกติแล้วล็อบบี้ก็อยู่ที่ชั้นล่างสุดกันทั้งนั้น มีแต่ที่นี่ซึ่งไม่เหมือนกับใครเลย มานั่งรอที่ชุดรับแขกได้ครู่หนึ่ง คุณโอ๋ก็โผล่มาบอกว่า “รถมาแล้วครับ นิมนต์พระอาจารย์ทุกท่านขึ้นรถได้เลยครับ” อาตมาเดินไปส่งกระเป๋าให้กับนายสันโดษ บอกว่าขอฝากใบนี้เพิ่มอีก ๑ ใบ เพราะว่าหูกระเป๋าขาดหิ้วไม่ได้แล้ว อีกฝ่ายรับไปไว้บนใบอื่นเพราะว่าเป็นกระเป๋าใบค่อนข้างเล็กมาก...
เมื่อเก็บกระเป๋าเข้าที่และปิดประตูข้างรถดีแล้ว นายสันโดษก็ขึ้นประจำที่นั่งคนขับ รอจนคุณโอเล่หอบกระเป๋าเสบียงและยาขึ้นมาก็นำรถออก อาตมาดูนาฬิกาที่หน้ารถเห็นเป็นเวลา ๐๘.๐๖ น. มัคคุเทศก์รูปหล่อจับไมค์บรรยายตามหน้าที่ “วันนี้ผมจะพาพระอาจารย์ทุกท่านออกจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์แล้วนะครับ เราจะวิ่งจากเมืองลูเซิร์น (Luzern) ผ่านเมืองบาเซิล (Basel) เพื่อข้ามพรมแดนไปยังเมืองดีจอง (Dijon) ของฝรั่งเศส จากนั้นก็จะพาทุกท่านนั่งรถไฟความเร็วสูงเตเจเว (TGV = Train a Grande Vitesse) ไปยังกรุงปารีสครับ”...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 20-09-2017 เมื่อ 14:26
|