ถาม : พระอาจารย์ช่วยขยายความเรื่องกิเลสให้หน่อยสิครับ เวลาฟังชื่นใจมากเลย ผมขี้เกียจอ่าน ?
ตอบ : ขี้เกียจอ่านหนังสือ แล้วไม่คิดว่าพระอาจารย์จะขี้เกียจตอบบ้างหรือ ?
กิเลสอย่างหยาบ คือ กิเลสที่หลุดออกจากทางกาย ทางวาจาของเรา ซึ่งต้องแก้ไขด้วยศีล
กิเลสอย่างกลาง ส่วนใหญ่เป็นอารมณ์ความคิดของเรา ก็คือ อยากได้โน่น อยากได้นี่ โกรธนั่น เกลียดนี่ ต้องแก้ด้วยสมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัวก็จะไม่ปรากฏ
กิเลสอย่างละเอียด เขาเรียกอนุสัยกิเลส เป็นส่วนลึกที่นอนนิ่งอยู่ในใจของเรา ถ้าไม่ใช่สภาพจิตละเอียดจริง ๆ บางทีก็คิดว่าไม่มี อย่างเช่นว่ากามสัญญา ก็คือคิดว่าตัวเองไม่มีความต้องการระหว่างเพศแล้ว แต่ยังมีโอกาสนึกถึงอยู่ เขาเรียกกามราคานุสัย พวกนี้ต้องแก้ด้วยปัญญา พอพิจารณาเห็นโทษว่า เปลวไฟที่ลุกไหม้ทั้งเมืองหรือเผาไหม้ทั้งป่า ก็เกิดจากสะเก็ดเล็ก ๆ นิดเดียวเช่นนี้ ถ้าเรายังปล่อยให้เผาไฟไหม้ใจเราอยู่ โอกาสที่เราต้องเกิดมาทุกข์ทนยังมีอีกมาก ก็จะมาพิจารณา มาตัด มาละกันเอง
ถาม : กิเลสอย่างกลาง ก็คือ ใช้วิปัสสนา หรือใช้สมถะครับ ?
ตอบ : ใช้สมาธิก็ระงับได้แล้ว แต่คำว่าระงับคือดับลงชั่วคราว เป็นวิกขัมภนวิมุตติหรือตทังควิมุติ ยังไม่ใช่สมุจเฉทวิมุตติ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-05-2017 เมื่อ 20:14
|