ปรจิตวิชากับเจโตปริยญาณ,อภิญญาของปุถุชนและกาม
กราบนมัสการขอรบกวนถามพระอาจารย์อีก (พอดีเป็นผู้รับฝากคำถามและถามแทน พระ , เณร และ ญาติธรรม )
๑. ปรจิตวิชาและเจโตปริยญาณ ใช่แบบเดียวกันหรือไม่ ผู้รู้วิชา ๒ อย่างนี้ สามารถรู้ความคิดและวาระจิตผู้อื่น แล้วจะสามารถรู้เท่าทัน อ่านกิเลสตัณหาในจิตของตนเองกับผู้อื่นได้หรือไม่ หากว่ากิเลสอยู่นิ่ง ๆ ไม่แสดงเป็นมโนกรรมออกมา วิชาพวกนี้สามารถรู้อ่านเท่าทันได้หรือไม่
๒. อภิญญาของปุถุชนที่ยังมีกิเลส ยังไม่เป็นพระอริยเจ้า มีโอกาสจะที่ถูกมารทั้งหลายลวงหลอกจนเสียทีจนถึงขั้นจะลงอบายภูมิได้เสมอใช่หรือไม่ ดังนั้นควรใช้หลักอะไรป้องกันการเสียที พลาดต่อกิเลส
๓. "กาม" หากว่าคนแก่ชรา หมดสมรรถภาพทางการสืบพันธุ์ ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย "กาม" นี้ยังไม่ไปใหน ยังคงอยู่ในจิต เพียงแต่มันอยู่นิ่ง ๆ ไม่แสดงอะไร แบบพักผ่อนรอเวลาที่จะทำงานแผลงฤทธิ์อีกครั้งในการเกิดใหม่ต่อไป ใช่หรือไม่
๔. ทำอย่างไรกามถึงจะทำอะไรเราไม่ได้ คือช่วงเวลากลางวันจะระวังได้ แต่เวลานอน ช่วงตอนจะเคลิ้มใกล้จะหลับ เคยเจอกามออกมาก่อกวน เกือบเผลอบ้าง แต่พอตั้งสติได้ภาพหายวับไปทันที แบบนี้ต้องป้องกันอย่างไร ถึงจะไม่เผลอพลาดตอนหลับ
๕. สังฆทาน นอกจากอาหาร ถ้าพระสงฆ์ทำการอปโลกน์แล้ว ฆราวาสทั้งผู้ไปทำบุญและเจ้าหน้าที่วัดต่างสามารถเลือกขนนำมาเป็นของตนได้ตามประสงค์หรือไม่ แบบขนไปให้ลูกหลานญาติพี่น้อง นำไปขายต่อหารายได้เสริม นำไปใช้ต่อที่บ้านบ้าง ที่ไม่ใช่กิจการในศาสนาหรือกิจการสาธารณกุศล โดยผู้ขนบอกว่า "พระยกให้แล้ว"
|