
18-01-2017, 17:39
|
 |
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,062
ได้ให้อนุโมทนา: 284,214
ได้รับอนุโมทนา 854,777 ครั้ง ใน 13,218 โพสต์
|
|
เขาถ่ายรูปสะพานแห่งนี้ ไม่ใช่เรือข้างล่าง..!
เขาถ่ายสะพานถอนหายใจกันขอรับ มัคคุเทศก์เถื่อนชี้ให้ดูสะพานรูปโค้งที่ปิดทึบรอบด้าน มีหน้าต่างลูกกรงอยู่สองช่อง เชื่อมอาคารสองฝั่งคลองเข้าด้วยกัน ความสูงอยู่ระดับเดียวกับชั้นสองของตัวอาคาร อ๋อ..สะพานนักโทษปลงชีวิตของคุณโอ๋นั่นเอง ตูก็นึกว่าเขาถ่ายรูปคลองกับเรือเสียอีก ขอโทษครับที่โง่..! ถ้าท่านยังโง่ ในโลกนี้ก็คงหาคนฉลาดได้ยากเต็มทีแล้วครับ น่าน...โดน ท่านผู้นำ กัดเอาอีกจนได้ ขี้เกียจทะเลาะกับ ผี อาตมาจึงเดินลงสะพานตามพรรคพวกหลายท่านที่เลี้ยวขวาเข้าไปใต้อาคารพระราชวังดูคาเล่ไปแล้ว อีกส่วนหนึ่งยังคงแยกย้ายกันไปเก็บภาพมุมต่าง ๆ โดยเฉพาะด้านที่เป็นทะเล...
แดดจัดจนตาพร่า บรรดา ฝรั่ง ทั้งหญิงชาย เดินเอ้อระเหยลอยชายตากแดดอย่างมีความสุข แต่พวกเรามุดเข้าใต้ระเบียงพระราชวังดูคาเล่ หลบแดดตามมัคคุเทศก์รูปหล่อที่กำลัง จ้อ ติดลม โดยมีอาตมา ท่านไพฑูรย์ กับพระครูปรีชายืนฟังอยู่แค่สามรูป ส่วนพรรคพวกแยกย้ายกันไปหามุมถ่ายรูปกันตามอัธยาศัยหมดแล้ว...
พระราชวังดูคาเล่ (Palazzo Ducale) หรือ พระราชวังดอดจ์ (Doge Palace) เป็นวังของดอดจ์ (เจ้าผู้ครองนคร) ผู้ครองเมืองเวนิสมากว่า ๒๐๐ พระองค์ เป็นศูนย์รวมอำนาจในการปกครองนครเวนิสในอดีต วังนี้สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ ๙ ได้รับการบูรณะและก่อสร้างเพิ่มเติมในระหว่างศตวรรษที่ ๑๔ และ ๑๕ จนกระทั่งสวยงามอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน ท้องพระโรงใหญ่ประดับด้วยทองคำและประดับภาพจิตรกรรมขนาดใหญ่ถึง ๗ X ๒๒ เมตร ชื่อ "The Paradise" ของจาโคโป ตินโตเรตโต (Jacopo Tintoretto) จิตรกรที่มีชื่อเสียงของเมืองเวนิส ภาพนี้ได้ชื่อว่าเป็นภาพเขียนสีน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก น่าเสียดายที่เวลาของพวกเรามีน้อย จึงไม่ได้พาพระอาจารย์ทุกท่านเข้าไปชมด้านใน
|