จริง ๆ แล้วพระคาถาเหล่านี้พระท่านให้หลวงพ่อวัดท่าซุงใช้เป็นส่วนตัว ตั้งแต่ปี ๒๕๒๘ สภาพเศรษฐกิจช่วงนั้นแย่มาก ท่านย่าจึงขอกับพระท่านว่า ขอให้ลูกหลานหลวงพ่อได้ใช้คาถาบ้าง ไม่อย่างนั้นจะไม่มีกำลังในการสร้างวัด เพราะช่วงนั้นหลวงพ่อท่านทำอาคารใหญ่ ๆ หลายหลังพร้อม ๆ กัน พอได้รับอนุญาตท่านก็เอามาให้ภาวนากัน
ส่วนใหญ่ที่ทำกันก็คือ ทำพอเป็นเชื้อสาย ภาวนากัน ๕ จบ ๙ จบ อะไรประมาณนั้น อาตมาเลยมาคิดว่าสมัยหลวงปู่ป่าน มีนายแจ่ม เปาเล้ง มีนายห้างประยงค์ ตั้งตรงจิตร ทำจนเกิดผลเป็นตัวอย่างได้ สมัยหลวงพ่อวัดท่าซุงทำไมไม่มีใครทำเป็นตัวอย่างบ้าง ท้ายสุดก็มาคิดว่า ในเมื่อคนอื่นไม่ทำ เราก็ทำเสียเอง ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาลุยอยู่ ๓ ปีกว่า หลังจากที่เกิดผลขึ้นมา ก็เกิดความมั่นใจ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำในลักษณะที่กำหนดว่าเป็นระยะเวลายาวนานเท่าไร หรือภาวนากี่จบ แต่ว่านึกได้เมื่อไรก็ทำ
ถาม : เคยภาวนาแล้วทำไมเกิดผลแบบอึดอัด ?
ตอบ : ไม่เป็นไร เราก็ใช้สตางค์แบบอึดอัดแล้วกัน "มาเยอะจนใช้ไม่หมด อึดอัดมากเลย" อะไรอย่างนี้
ถาม : ทำไมเกิดผลแบบนั้น ?
ตอบ : จริตนิสัยแต่ละคนไม่เหมือนกัน ของอาตมานี่ไม่เหลือให้อึดอัดหรอก ยังไม่ทันจะมาเลยจ่ายล่วงหน้าไปแล้ว
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-01-2017 เมื่อ 10:35
|