| 
				  
 
			
			ถาม : มีความรู้สึกเหมือนมีความโกรธ ผูกโกรธ ห่มในใจอยู่เนือง ๆ ตลอดทั้งวัน เป็นมานานแล้วครับ ควรทำอย่างไร ? จะใช้พรหมวิหารได้หรือไม่  หรือว่าใช้อานาปานสติ ? มีความรู้สึกว่าใช้พรหมวิหารจะมีผลต่ออาการขุ่น ๆ ที่อยู่ในใจมากกว่า แต่ไม่สามารถทรงไว้ได้นาน ?ตอบ : นี่เขาเรียกว่าถามทั้งที่รู้  ทำอย่างไหนที่ดีต่อการปฏิบัติของตนเองก็ทำไป  ไม่ใช่เสียเวลามาถามคนอื่นเขา  เดี๋ยวได้กรรมฐานผิดไปก็เตลิดเข้าป่าเข้าดงไปอีก..!
 
 ถาม : ที่พระอาจารย์เคยกล่าวถึงการเจริญเมตตาว่า “การฝึกซ้อมถ้ากำลังไม่มี ก็มีแต่จะโดนคู่ต่อสู้น็อกไปตลอด” นั้น อยากทราบว่าการพักจากการฝึกซ้อมก็คือการกำหนดรู้ลมหายใจ ใช่หรือไม่ ?
 ตอบ : ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียดตามเคย...! ที่ว่ามาหมายถึงเฉพาะคนถามในช่วงนั้น  กำลังใจการปฏิบัติไม่มีเลย แล้วคิดจะไปทำ ก็เหมือนกับคนไม่เจียมสังขาร  ต่อยมวยไม่เป็นแต่ขอไปวัดกับแชมป์โลกบนเวที
 
 จำไว้ว่าการปฏิบัติถ้าไม่ทำถึงที่สุดแล้ว เราไม่สามารถที่จะสู้กิเลสได้ด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าเวลาใดเวลาหนึ่ง ก็ต้องมีกิเลสอย่างใดอย่างหนึ่ง โผล่เข้ามารบกวนเราอยู่เสมอ  ดังนั้น...ถ้าเราไปตั้งใจว่าทำแล้วต้องได้ผล ต้องเกิดผลเลย  เหมือนกับการกินยาไทยต้องค่อย ๆ กิน เพื่อสะสมรอ จนกระทั่งฤทธิ์ยาเพียงพอที่จะรักษาโรค  ถึงจะระงับอาการของโรคนั้นได้
 
 แต่เราเองคิดว่ากินไปแล้วต้องหายทันที  จะเป็นไปได้อย่างไร ? โปรดเข้าใจเสียใหม่ว่า กรรมฐานทุกกองสามารถใช้งานได้จริงก็ต่อเมื่อเราทำอย่างจริง ๆ จัง ๆ จนเกิดผลเท่านั้น ไม่ใช่เริ่มเอื้อมมือไปแตะก็ใช้ได้เลย
 
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:24
 |