
26-08-2009, 01:18
|
 |
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,779 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
|
|
ในบรรดาหมู่สัตว์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายอยู่ในวัฏฏะ
จะกระทำกรรมเหมือนกันตลอดอัตภาพหนึ่ง ๆ ไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นไปได้
ด้วยเหตุดังนั้น วิบากกรรมจึงส่งให้สัตว์ทั้งหลายได้รับผลของกรรมต่างกัน
ค้างคาวหนูทั้ง ๕๐๐ ก็เช่นเดียวกัน แต่ละตัวมีวิบากกรรมที่ต่างกันไป
แต่ด้วยการกระทำกรรมสุดท้ายอย่างเดียวกันคือ ได้ฟังพระเถระ ๒ รูปท่องพระอภิธรรม
การกระทำที่เหมือนกันในครั้งนี้ ทำให้วิบากกรรมที่จะนำไปสู่อบายภูมิ
(ดิรัจฉาน เปรต อสุรกาย สัตว์นรก) ในภพชาติต่อไปถูกตัดทอนเสียสิ้น
ค้างคาวเหล่านั้นมีภพเหลือเพียง ๒ ภพคือ สุคติภพ (เทวโลก) และมนุษย์เท่านั้น
ทั้งนี้ด้วยอานิสงส์ของการน้อมจิตฟังพระธรรม ได้ส่งผลอันยิ่งใหญ่แก่ค้างคาวทั้ง ๕๐๐
และอานิสงส์นี้มิใช่จะยังประโยชน์เฉพาะแก่ค้างคาวเท่านั้น
เพราะเมื่อผู้ใดก็ตามได้น้อมจิตถึงซึ่งพระธรรมแล้ว
ผู้นั้นย่อมจะได้รับประโยชน์อันยิ่งใหญ่นั้นเสมอกัน
นอกจากนี้ยังได้มีกล่าวไว้ในอรรถกถา ฉบับธรรมทาน เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค หน้าที่ ๒๒๔ ว่า
“ ในครั้งที่พระอนุรุทธเถระ (เป็นผู้ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นเลิศทางทิพยจักษุ)
นั่งสาธยายธรรมอยู่ในเวลาใกล้รุ่ง ที่บริเวณนั้นได้มียักษิณีตนหนึ่งชื่อ ปิยังกรมาตา สดับพระธรรมนั้น จึงรำพึงว่า
“เรารู้บทธรรมแล้ว จะปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของเราข้อนั้นพึงมี เราพึงสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย
ไม่พึงกล่าวเท็จทั้ง ๆ ที่รู้ พึงศึกษาความเป็นผู้มีศีลของตน เราก็จักพ้นจากกำเนิดนี้ได้”
นางยักษิณีได้บรรลุโสดาปัตติผลในวันนั้นเอง
 
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 29-08-2009 เมื่อ 16:50
|