พระอาจารย์กล่าวว่า "น้ำฟักทองไม่ใช่ปานะ พระไม่สามารถจะฉันหลังเพลได้ น้ำฟักทอง น้ำลูกเดือย บรรดาสารพัดถั่ว แม้กระทั่งน้ำข้าว ก็เป็นอาหาร สมัยนี้เขาแกล้งโง่ ๆ มาถวายเป็นน้ำปานะกันหมด โดยเฉพาะระยะหลังที่เจอมากคือน้ำข้าวโพด น้ำเผือกปั่น น้ำฟักทองปั่น บางรายปั่นมาข้นคลั่กเป็นครีมเลย
น้ำเต้าหู้ก็เป็นอาหาร เพราะว่ามาจากถั่วเหลือง บรรดาตระกูลถั่วตระกูลข้าว พวกพืชกินหัวทั้งหมดเป็นอาหาร ต้องบอกว่าค่อย ๆ เพี้ยนไปเรื่อย จนกระทั่งผิดกลายเป็นถูก พอเราไปทำให้ถูกก็กลายเป็นผิดในสายตาคนอื่น ระยะหลังมีในงานภาคค่ำ อย่างเช่นพวกงานสวดอภิธรรม มีถวายเม็ดก๋วยจี๊ เมล็ดทานตะวัน ก็เห็นท่านนั่งแทะเป็นนกเป็นกระรอกอยู่เหมือนกัน โยมไม่รู้ ถวายของที่ไม่สมควรมา พระต้องบอกต้องเตือนโยมให้รู้ ไม่ใช่ถวายมากูก็ฉวยโอกาสกินเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-03-2016 เมื่อ 02:55
|