พระอาจารย์เล็ก : ในเรื่องของการบวงสรวงที่ตุ๊พ่อท่านว่ามา โดยปกติแล้วลูกศิษย์สายวัดท่าซุงจะอาศัยเสียงเทปของพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นหลัก แต่หลายท่านสงสัยว่าทำไมอาตมาบวงสรวงด้วยตนเองมาตลอด ก็เพราะว่าพอไปเริ่มสร้างเกาะพระฤๅษีก็ใช้วิธีเดิม ก็คือเปิดเสียงหลวงพ่อในการบวงสรวง แต่ว่าวันนั้นพอเปิดก็มีเสียงเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาเลยว่า นี่แกใช้ข้าจนกระทั่งตายแล้วยังจะใช้ต่อไปอีกหรือ ? ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาก็เลยยกหลวงพ่อไว้เหนือหัว ขออนุญาตครับ เสร็จแล้วก็จัดแจงบวงสรวงแทนท่านไปเลย
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็อยู่ในลักษณะนี้ ก็คือในเมื่อพ่อด่าแปลว่าควรที่จะยืนด้วยตัวเองสักทีแล้ว ไม่ใช่เอะอะก็เกาะกันอยู่ตลอด ท่านจะสอนให้พวกเรายืนด้วยตัวเองมาตลอด ไม่เคยสอนให้ไปเกาะกายเนื้อของท่าน แต่ว่าบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายที่ได้รับฟังคำสอนของท่านก็ดี ฟังเทปก็ดี ส่วนใหญ่แล้วมักจะไปยึด ไปเกาะที่องค์ท่านแทน ลืมสังเกตในคำสอนนั้นไป ที่ท่านบอกอยู่เสมอว่า ไม่มีใครสามารถเป็นที่พึ่งของเราได้ตลอด ถึงเวลาต่างคนก็ต่างตาย ต่างคนก็ต่างไป ในเมื่อโดนเข้าไปเต็ม ๆ ลักษณะอย่างนั้น อาตมาก็เลยจำทนหน้าด้าน ถึงเวลาบวงสรวงก็นึกของบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหมเทวดา ครูบาอาจารย์ทั้งหมด มีหลวงปู่หลวงพ่อนั่งอยู่เหนือเศียรเหนือเกล้า แล้วก็ว่าไปเลย
แต่ว่าพอทำอยู่ในลักษณะนี้แล้วกลับกลายเป็นว่าสิ่งต่าง ๆ ที่ทำเกิดมีผลมากขึ้นมา อาจจะเป็นเพราะว่าหลวงพ่อท่านเหนื่อยน้อยลงก็เลยมีแรงให้เราใช้มากขึ้นหรืออย่างไรก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
ในส่วนของสิ่งที่เราได้รับสัมผัสจากหลวงพ่อตรง ๆ ด้วยกายเนื้อก็ดี ด้วยในลักษณะของความเป็นทิพย์ก็ดี ไม่ใช่แต่อาตมาเอง แม้แต่หลวงตาวัชรชัยท่านก็ได้รับมาอยู่ตลอด เพียงแต่ว่าในส่วนที่บอกเล่ากับพวกเราได้อาจจะมีน้อยกว่าความเป็นจริง เพราะบางอย่างก็เป็นเรื่องที่เป็นส่วนตัวจนเกินไป เราก็ลองฟังจากหลวงตาดูบ้าง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราได้รับจากหลวงพ่อท่านมามีอะไรบ้าง อาจจะดุเด็ดเผ็ดมันหรือดราม่าน้ำตาไหลจ๊อกก็ลองฟังดู
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
|