
20-08-2009, 15:15
|
 |
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,779 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
|
|
การจะมาร่วมกันสาธยายพระธรรมวินัยจึงเป็นไปได้ยาก ทั้งนี้เพราะพระธรรมวินัยซึ่งมีจำนวน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์นี้
ผู้ที่จะทรงจำ รู้ และเข้าใจอย่างลึกซึ้งก็ต้องเป็นผู้บวชเรียนและได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณ
ฉะนั้นผู้ที่เป็นฆราวาส เป็นผู้ครองเรือนมีกิจในการทำมาหาเลี้ยงชีพจึงไม่อาจจะทำได้
ต่อมาได้มีการประดิษฐ์อักษรเพื่อใช้ในการสื่อสาร จึงทำให้มีการบันทึกพระธรรมวินัยเป็นลายลักษณ์อักษร
เพื่อไม่ให้คลาดเคลื่อนไปจากพระพุทธพจน์ที่ได้แสดงไว้เมื่อครั้งพุทธกาล
ซึ่งการจารอักษรพระไตรปิฎกครั้งแรกได้ทำเป็นภาษาสิงหล ณ เมืองลังกา
ต่อมาประเทศไทยได้รับมาในรูปแบบของพระไตรปิฎกฉบับภาษาบาลี จากนั้นจึงมาแปลภาษาไทยในภายหลัง
แต่การสาธยายก็ยังไม่สามารถกระทำได้ เนื่องด้วยคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการศึกษา
ไม่สามารถอ่านเขียนหนังสือได้ และในขณะนั้นการพิมพ์หนังสือพระไตรปิฎกก็ยังไม่แพร่หลาย
แต่ปัจจุบันการศึกษาเล่าเรียนของคนไทยได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้น
ทำให้คนไทยทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดสามารถอ่านเขียนหนังสือได้อย่างดี
นอกจากนั้นการพิมพ์หนังสือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพระไตรปิฎกหรือหนังสือทุก ๆ ประเภท ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างดี
ประกอบกับคนส่วนใหญ่ในประเทศไทยนับถือศาสนาพุทธกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
จึงเป็นการสมควรและเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ที่เหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลายจะมาช่วยกันดำรงพระศาสนา
ประกาศพระธรรมด้วยการสาธยายพระไตรปิฎก
ได้มีคำกล่าวว่าพระพุทธศาสนาจะดำรงอยู่ ๕,๐๐๐ ปี ฉะนั้นช่วงนี้จึงถือได้ว่าเป็นช่วงกึ่งพุทธกาล
(ท่าน Piyaratana พระชาวศรีลังกาบอกว่า ถ้าจะนับปีให้ถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว ปีนี้ (๒๕๕๑) ในประเทศไทย คือ ปีพ.ศ. ๒๕๐๐
ส่วนประเทศศรีลังกาจะเป็นปี ๒๕๐๑ เพราะที่ประเทศศรีลังกาได้ทำการฉลองกึ่งพุทธกาลคือ ๒๕๐๐ ปี ไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทางศรีลังกาจะนับปีมากกว่าประเทศไทยหนึ่งปี)
จากที่พระศาสดาได้ทรงพระปรินิพพานจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลาอันยาวนานมาก พวกเราไม่ได้มีโอกาสได้พบพระศาสดา
(หรืออาจจะเคยในภพก่อนแต่ความทรงจำในอดีตได้ลบเลือนไปแล้ว)
 
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 29-08-2009 เมื่อ 16:43
|