พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วยนี่ญาติโยมหลายคนยังเข้าใจผิด เมื่อหลายปีก่อน ช่วงที่อาตมายังเป็นเจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิอยู่ มีโยมอยู่คนหนึ่งอยู่แถวใกล้ ๆ ห้องสมุดเฉลิมราชกุมารี แกเป็นโรคเส้นยึดเส้นจม จนกระทั่งหลังโกงเดินเอียงไปข้างหนึ่ง แกก็ใส่บาตรอยู่หลายเดือนเกือบปี แล้วก็หายไปเฉย ๆ ก็เลยถามลูกหลานโยมเขาว่าโยมไปไหน ? เขาบอกว่าแกใส่บาตรอยู่ตั้งนานไม่หายป่วยสักที แกเลยไม่ใส่
เขาไปเข้าใจอย่างนั้น เข้าใจว่าทำบุญแล้วจะต้องได้อย่างใจทุกอย่าง โดยที่ไม่เข้าใจว่าส่วนใหญ่สิ่งที่เราทำ โอกาสที่จะสำเร็จชาตินี้มีน้อย ถ้าไม่ใช่ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม แกจะให้เห็นผลทันตาว่าแกต้องหาย แล้วก็ดันมาใส่บาตรตอนชำรุดเสียขนาดนั้นแล้ว
ส่วนอีกรายหนึ่ง ยายแกตั้งใจจะมาใส่บาตร แต่คราวนี้หน้าฝนพื้นซีเมนต์ลื่น แกก็เลยล้มกระดูกสะโพกแตก พอรักษาหายแกก็เลยเลิกใส่บาตรไปเลย คงคิดว่าตั้งใจจะทำบุญแล้วยังเป็นเสียอย่างนี้ เลยไม่ทำอีก เป็นอะไรที่น่าเสียดาย ต้องบอกว่ามารเขาเก่ง เขาดลใจให้คิดไปในทางที่ออกจากความดีได้ตลอด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-12-2015 เมื่อ 16:35
|