
05-12-2015, 14:39
|
 |
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,062
ได้ให้อนุโมทนา: 284,214
ได้รับอนุโมทนา 854,777 ครั้ง ใน 13,218 โพสต์
|
|
"ตีเนียน" ด้วยการถ่ายรูปรถตู้เอาไว้
เมื่อทุกคนแม้แต่อาตมาเองได้รูปครบแล้ว ก็เดินกลับลงมาหารถใหม่ มาเจอเข้าที่ลานจอดรถเลย “กุฏิพระ” ที่เป็นตึกสองชั้น ข้างบนทาสีน้ำตาลแดง ข้างล่างทาสีขาวมอม ๆ ไปตั้งไกล ไม่เห็นว่า “นายยู่ยี่” ไปหลบอยู่ที่ไหน พวกเราเลย “ตีเนียน” ด้วยการถ่ายรูปรถตู้เอาไว้ โดยมียายจี๋ น้องเก๋ น้องเล็ก และลูกปุ๊กเป็นนางแบบ หลังจากนี้ถ้าไปจอดรวมกับรถตู้อื่น ๆ เราก็แค่เปิดดูรูปว่ารถของเราเป็นคันไหน เท่านี้ก็จบเรื่อง...
นายทองกับ “นายยู่ยี่” หลบไปหาอะไรกินมาด้วยกันแน่เลย เพราะโผล่ศีรษะมาพร้อมกัน พวกเราบอกว่าให้พากลับไปที่สำนักงานของนายรามก่อน เพื่อติดตามเรื่องวีซ่าเข้าเมืองจีนว่าเสร็จแล้วหรือไม่ ? ถ้ามีเวลาเหลือค่อยไปช็อปปิ้งกันตามโปรแกรมที่วางเอาไว้ “นายยู่ยี่” จึงนำรถตู้ลงจากเขา พาวิ่งดิ่งลงเขาตรงเข้าเมือง ขึ้นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำพิษณุมาตี (Bisnumati River) ตัดเข้าถนนซอยเล็ก ๆ ที่แคบจนรถแทบจะสวนกันไม่ได้ แล้วก็ไปเจอทีเด็ดว่ารถที่สวนมานั้นเป็นหกล้อ..!
รถหกล้อเมืองนี้น่าจะเจริญเติบโตกว่ารถหกล้อบ้านเรา เพราะใหญ่กว่าสิบล้อบ้านเราตั้งเยอะ พ่อเจ้าประคุณพยายามหลบสุดชีวิต เลยไปเบียดกับเสาไฟฟ้าและป้ายหน้าร้านอินเตอร์เน็ต ขยับทีเสาไฟฟ้าก็โยกที อาตมาเอากล้องแปะติดกระจกรถตู้ของเรา ถ่ายภาพการถ้อยทีถ้อยอาศัยของชาวเนปาลี ที่สามารถแบ่งกันใช้ “ทรัพยากร” อันน้อยนิด อย่างมีน้ำใจอันยิ่งใหญ่ต่อกัน จนรถของเราหลุดเลยไปได้ ทิ้งปัญหาให้กับรถหกล้อว่า ทำอย่างไรที่จะออกรถโดยไม่ดึงเสาไฟล้มไปด้วย..?
|