
02-12-2015, 08:23
|
 |
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,062
ได้ให้อนุโมทนา: 284,214
ได้รับอนุโมทนา 854,777 ครั้ง ใน 13,218 โพสต์
|
|
ใครจะไปก็หลบเชือกกันเอาเองนะครับ..!
นายทองที่ยืนหลบแดดอยู่ข้างซุ้มประตูชั้นใน ส่งเสียงเรียกมาว่าหมดเวลาแล้ว พวกเรายังต้องไปยังสถานที่สำคัญคือพระสถูปสวยัมภูวนารถ ซึ่งพวกเรากำหนดไว้ในรายการทัวร์ว่า เป็นสถานที่ซึ่ง “ต้องไปให้ได้” อาตมาจึงเรียกทุกคนให้มารวมตัวกันที่ด้านหน้าวัด ถ่ายรูปหมู่กับสิงห์เนปาลแกะสลัก แต่ได้แค่ป้ามอย แม่ป๋อม น้องเก๋ น้องเล็ก และลูกปุ๊ก ส่วนยายจี๋ที่ออกมาทีหลัง ยังอุตส่าห์ช่วยถ่ายรูปหมู่ที่ไม่มีตัวเองให้อีกกล้องหนึ่ง...
“นายยู่ยี่” นำรถตู้มาเทียบรับถึงหน้าประตูวัด แล้วพาวิ่งย้อนกลับไปทางพระราชวังปาทาน แต่พอมาถึงข้างพระราชวัง กลับพาเลี้ยวซ้ายมุ่งผ่านถนนที่เมื่อเช้าอาตมาย่องมา “เดินตลาด” ไปได้หน่อยหนึ่งรถก็ติดหนุบหนับ “ขบวนแห่เทพเจ้าเมื่อเช้านี้ค่ะ ยังไม่ได้ไปไหนเลย” แม่ป๋อมกับลูกปุ๊กชิงกันบอก มองไปเห็นราชรถที่บนหลังคาเหมือนกับยกเอาต้นสนทั้งต้นขึ้นไปตั้งไว้ มีข้าวของเครื่องบูชาและผ้าผ่อนสารพัดติดอยู่ ซึ่งคงจะรับน้ำหนักไม่ไหว ตอนนี้จึงเอียงกระเท่เร่จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ ทำให้ผู้คนต้องระดมกันเอาเชือกผูก “ต้นสน” ช่วยกันชักช่วยกันรั้งจนเป็นเหตุให้รถติดหนับ...
อาตมาที่เมื่อเช้าเบียดคนเข้ามาไม่ไหว จึงได้ดูอย่างถนัดตาในตอนนี้เอง ราชรถนั้นมีแอกเป็นคานไม้เหลี่ยมประมาณหน้าแปด มีล้อแบบล้อเกวียนที่สูงท่วมหัว นับว่าใหญ่โตเอาการทีเดียว บนรถเป็นมณฑปโลหะที่ตั้งอยู่บนพื้นไม้ มี “ต้นสน” ติดตั้งอยู่บนหลังคา “นายยู่ยี่” บีบแตรเตือนฝูงชน พร้อมกับพยายามเบียดรถแทรกเข้าไปเรื่อย ๆ พอเลี้ยวขวาได้ถึงเห็นชัดว่า อีกสาเหตุของรถติดก็คือ มีคนเอาหลักโลหะมาตอกลงบนกลางถนน เพื่อโยงรั้งไม่ให้ “ต้นสน” ล้มลงกับพื้น รถที่วิ่งมานอกจากต้องหลบหลักแล้ว ยังต้องแหวกเชือกมะลิลาเส้นมหึมาถึงจะผ่านไปได้...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-12-2015 เมื่อ 15:33
|