
30-11-2015, 12:11
|
 |
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,062
ได้ให้อนุโมทนา: 284,214
ได้รับอนุโมทนา 854,777 ครั้ง ใน 13,218 โพสต์
|
|
มุมนี้กว้างยังไม่พอ เพราะท่านถ่ายไม่ถึงยอดหอระฆัง..!
ที่ขนาบอยู่ทางซ้ายของตัวโบสถ์ ก็คือหอระฆังจิออตโต (Giotto’s Bell Tower) ทรงสี่เหลี่ยม ๕ ชั้น ที่สูงลิบลิ่วถึง ๘๘ เมตร รังสรรค์จากหินอ่อนสามสีเช่นเดียวกับตัวโบสถ์ที่เรามาผิดเวลาแล้วเข้าไม่ได้ หอระฆังนี้ยังเปิดให้เข้าชมได้จนถึงเวลาทุ่มครึ่ง อาตมาไม่ได้เกี่ยงราคาตั๋ว ๖ ยูโรที่ต้องจ่ายหรอก แต่สภาพของ “ไอ้เป๋” ที่กระดูกสะโพกเคลื่อนแบบนี้ ขืนไปขึ้นบันได ๔๑๔ ขั้น มีหวังโดนผีนายจิออตโต (Giotto di Bondone) หัวเราะเยาะโทษฐานที่ไม่เจียมสังขารแน่ ๆ จึงเดินหามุมเพื่อถ่ายรูปแทน พอพ้นหอรับศีลจุ่มก็เห็นมุมที่สามารถถ่ายหอระฆังได้เต็มทั้งหลัง...
“อาจารย์พระครู...ช่วยถ่ายรูปมุมนี้ให้ผมหน่อยครับ” มหาประโยค ๙ รูปเดียวของรุ่นเอ่ยปากขอแรง อาตมาถ่ายรูปท่านกับหอระฆังและมุมหนึ่งของโบสถ์แล้ว ท่านก็ถ่ายให้กับอาตมาเป็นการตอบแทนบ้าง มองซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็นพรรคพวกท่านอื่นเลย ถ้าไม่ใช่ว่าเดินตามมาไม่ทัน ก็คงจะเตลิดเปิดเปิงไปกับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากแล้วแน่ ๆ ตอนนี้เพิ่งจะห้าโมงสิบเจ็ดนาทีของที่นี่ ยังมีเวลาตั้งเยอะกว่าจะหนึ่งทุ่มตามที่นัดหมาย...
เห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไหลไปยังทิศใต้ที่เป็นตรอกหรือซอยค่อนข้างกว้าง อาตมาจึงกำหนดจำทิศทางของมหาวิหารแล้วเดินตามไปบ้าง เห็นสองฟากข้างเป็นตึกแถวแบบเก่าสูงห้าชั้นทาสีขาวนวล ส่วนมากเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร ฯลฯ พอพ้นไปช่วงหนึ่งตัวอาคารก็ทาสีเหลืองอ่อนแทน มุมตึกบางแห่งมีอิฐเก่าสึกกร่อนโผล่ออกมา แสดงถึงอายุอันยาวนานของสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ มีรถแท็กซี่แล่นช้า ๆ ปะปนไปกับหมู่นักท่องเที่ยวด้วย...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 18-02-2016 เมื่อ 08:08
|