พอตกพลบค่ำ ๕ โมงเย็น ก็ไปกราบพระอาจารย์มหาแล้วปรารภว่า
‘กระผมอยู่ไม่เป็นสุข อยากจะไปเยือนหลวงปู่ที่อยู่กับครูบาทองคำ ๒ องค์ ทั้งกลัวองค์ท่านจะดุ จิตใจกระผมว้าเหว่มากขอรับ กระผมนึกว่าจะไปองค์เดียว แม้จะกลับตอนกลางคืนองค์เดียว จะเป็นประการใดหนอ ?’
องค์พระอาจารย์มหาตอบว่า ‘เออ..ผมก็ว้าเหว่เหมือนกัน ท่านลองไปดูซิ ผมไม่ว่าดอก’
กราบลาองค์ท่านแล้วก็รีบไป พอไปถึงก็ค่ำมืดพอดี ขณะนั้นองค์หลวงปู่และครูบาทองคำนั่งอยู่พื้นดิน พอเรายังไม่ทันนั่งลงกราบ องค์หลวงปู่พูดขึ้นเย็น ๆ ว่า
‘เออ..คุณหล้ามา ไปเอาฟืนนั้นมาใส่ไฟให้กัน ดุ้นไหนไม่เรียบร้อยก็เก็บเสียเน้อ’
การจับไข้ขององค์หลวงปู่ก็เบาลงแล้ว ชะรอยจะเป็นด้วยอากาศโปร่งกว่ากันบ้างหรือยังไงไม่ทราบได้ ครั้นตอนดึกประมาณ ๔ ทุ่มเศษก็กราบลากลับวัด แล้วพระอาจารย์มหายังมิทันได้หลับ ขึ้นจากทางจงกรมใหม่ ๆ ไฟตะเกียงจุดริบหรี่อยู่ ขึ้นไปกราบองค์ท่าน (พระอาจารย์มหาฯ) เล่าถวายทุกประการ องค์ท่านคำนึงพิจารณาแบบบรรจง องค์ท่านกล่าวว่า
‘เออ.. พรุ่งนี้ฉันเช้าเสร็จผมจะพาหมู่เราทั้งหมด และชาวบ้านหนองผือทั้งหมดไปอาราธนากราบเท้า นิมนต์วิงวอนให้องค์หลวงปู่คืนมาวัดเราตามเดิม เพราะชาววัดชาวบ้านก็ว้าเหว่เงียบเหงา กินมิได้นอนไม่หลับ แม้ตัวของผมก็สลดใจและว้าเหว่มาก คราวนี้องค์ท่านจะไปวิเวกจริงหรืออะไร ๆ ผมก็พิจารณายากอยู่สักหน่อย ไม่ว่าแต่สักหน่อยละ.. พิจารณายากกันดี ๆ นี้เอง หล้าเอ๋ยหล้า’
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2015 เมื่อ 15:35
|