ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 10-10-2015, 13:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,716
ได้ให้อนุโมทนา: 158,649
ได้รับอนุโมทนา 4,491,233 ครั้ง ใน 36,326 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น ในการปฏิบัติทุกครั้งเราต้องทบทวนดูว่า ศีลทุกสิกขาบทของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์หรือไม่ ? ท่านรักษาศีล ๕ รักษาได้ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ? ท่านที่รักษาศีล ๘ รักษาได้ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ ? ถ้าท่านที่รักษาศีล ๑๐ หรือศีล ๒๒๗ นั้นยิ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะต้องรักษาสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์

คำว่า "บริสุทธิ์บริบูรณ์" ในที่นี้ก็คือว่า เราไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล เมื่อมีความมั่นใจว่า ณ ที่นี้ เวลานี้ วินาทีนี้ เรามีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์ ให้ทุกคนทำกำลังใจให้มีความเคารพมั่นคงในคุณพระรัตนตรัย คือมีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

แล้วทบทวนดูว่าตัวเราก็ดี ตัวคนอื่นก็ดี สัตว์อื่นก็ดี มีใครที่ล่วงพ้นจากความตายได้บ้าง ? สรรพชีวิตทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น แปรปรวนในท่ามกลาง แล้วก็สลายตายไปในที่สุด เรามีความตายเป็นของธรรมดา ไม่สามารถจะล่วงพ้นจากความตายไปได้ แต่ถ้าตายไปแล้วเรามาเกิดใหม่ทุกข์ยากลำบากเช่นนี้ หรือว่าทุกข์ยากลำบากกว่านี้ ก็ขึ้นชื่อว่าเราเกิดมาแล้วขาดทุน เพราะฉะนั้น..การเกิดใหม่สำหรับเราจะไม่มีอีกแล้ว เพราะเราไม่ปรารถนาความเกิดที่เป็นทุกข์เช่นนี้อีก มีสถานที่เดียวที่ทำให้เราพ้นทุกข์อย่างแน่นอน คือพระนิพพาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-10-2015 เมื่อ 20:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 54 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา