เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๘
ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกทั้งหมดของเราไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เราเคยถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ระยะนี้นอกจากภัยธรรมชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะน้ำท่วม เกิดขึ้นหลายแห่งทั้งในและนอกประเทศแล้ว สภาพเศรษฐกิจของบ้านเราก็ยังเริ่มฝืดเคืองขึ้น ถ้าท่านทั้งหลายมีการปฏิบัติภาวนาจนกำลังใจทรงตัว ก็จะไม่หวั่นไหวไปกับสิ่งต่าง ๆ ภายนอกที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประสบพบเหตุน้ำท่วมด้วยตนเองก็ดี หรือว่าสภาพความเป็นอยู่ที่ฝืดเคืองขึ้น ตามสถานการณ์ของประเทศชาติและโลกก็ดี
แต่ถ้าท่านทั้งหลายไม่สามารถที่จะทำกำลังใจให้ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ได้ ก็จะรู้สึกทุกข์ยาก กลัดกลุ้ม ขอให้ทุกท่านฉวยโอกาสนี้ ที่บางคนเห็นว่าเป็นวิกฤติ ทำให้เรามองเห็นชัด ๆ ว่า สภาพการเกิดมาในโลกมนุษย์ มีความทุกข์เช่นนี้เป็นปกติ ขึ้นชื่อว่าบุคคลที่เกิดมาแล้วไม่ทุกข์นั้นไม่มี ในเมื่อโลกเต็มไปด้วยความทุกข์ยากเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในโลกอย่างนี้ สำหรับท่านทั้งหลายยังต้องการอยู่อีกหรือไม่ ?
ถ้าเราไม่ต้องการการเกิดมาพบกับความทุกข์ยากเร่าร้อนแบบนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องมุ่งขวนขวายเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ ซึ่งหลักธรรมที่จะนำเราพ้นจากกองทุกข์ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-10-2015 เมื่อ 18:39
|