ตอนมาก็สมบูรณ์ดี ตอนกลับเอาไปแค่นี้..!
จากปอเปี๊ยะทอดที่เป็นออร์เดิร์ฟ ชุดอาหารหลักก็ตามมา มีแกงจืดแครอตหัวไชเท้าใส่กุ้งแห้ง ที่จีนจับมือกับฝรั่ง ผสานวัฒนธรรมเข้ากันได้แบบกลมกลืน ปลาทอดผัดพริกหวานที่อาตมาโกยพริกทั้งแดงทั้งเขียวมาคนเดียว เพราะท่านอื่นไม่ฉัน ปลาจีนนึ่งที่แต่ละท่านเกือบจะฉันจานลงไปด้วย ผัดผักรวมที่กลิ่นเนยแรงไปหน่อย ไก่ล่อนซึ่งถ้าไม่มีแกงจืดมีหวังโดนทิ่มกระเดือกตายเพราะแห้งเหลือเกิน ปิดท้ายด้วยไข่เจียวน้ำมันมะกอก ที่มีบางท่านบ่นว่าทั้งแข็งทั้งเหนียว แต่ก็หมดเกลี้ยงอยู่ดี...
น้ำพริกนรกดูเกินความจำเป็น วันนี้ส่งอะไรมาก็เหลือแต่จานเปล่าหรือเศษกระดูกกลับไป ต้องสั่งข้าวมาเพิ่มอีกโต๊ะละ ๒ โถใหญ่ เล่นเอาคุณโอ๋ยิ้มแห้ง ๆ คงคิดว่าถ้าบรรดาพระอาจารย์ฉันกันแบบนี้ทุกมื้อที่เหลือ กลับไปตัวเองอาจจะตกงานเพราะบริษัทเจ๊งก็ได้..!
บริกรหญิงยกกาน้ำชามาถึง คงเห็น ถ้วยถังกาละมังหม้อ เต็มโต๊ะ จึงไม่วางกาน้ำชาลง แต่ขอถ้วยจากแต่ละคนไปเทให้แทน องปลัดแทนที่จะส่งถ้วยให้ กลับย้ายหลบไปวางที่อื่น เพื่อที่จะตักอาหารได้ถนัด อาหมวยคงฉุนเลยพ่นพรวดออกมาทีเดียวสองภาษา Give me your teacup. ลื่อจายโบ๋ย ? อาตมาหัวเราะพร้อมกับแปลให้เพื่อนนักบวชอนัมนิกายฟังว่า เขาชมว่าท่านน่ารัก ถามว่าแต่งงานหรือยัง ? อีกฝ่ายยิ้มเห็นฟันหลอ อย่ามาแหกตา ถ้าน่ารักทำไมต้องถามว่า ลื่อจายโบ๋ย (เข้าใจไหม ?)" เราฟังแต้จิ๋วออกนะ
นั่นแหละ..เขาถึงได้พูดภาษาจีนกับท่านคนเดียว กับพวกผมเขายอมใช้ภาษาจีนซะที่ไหน