พระอาจารย์กล่าวว่า “เทคโนโลยีสมัยนี้ทำให้คนหมดความกล้า อย่างสมัยก่อนประเภทถือดาบเข้าไปลุยกัน ถ้าไม่เก่งจริง ใจไม่สู้จริง มีใครกล้าบ้าง ? สมัยนี้ห่างกันเป็นพันไมล์ จรวดนำวิถีระเบิดกระจายไปแล้ว เทคโนโลยีดีขึ้นแต่กำลังใจคนแย่ลง สมัยก่อนไปลุยกันซึ่ง ๆ หน้า สมัยนี้บางทีไม่รู้หรอกว่าข้าศึกหน้าตาเป็นอย่างไร รู้ว่าอยู่ตรงนั้นก็ตูมเดียวกระจายไปแล้ว
สมัยที่อาตมายังเป็นทหารอยู่ อาวุธที่ทันสมัยที่สุดก็คือจรวดดราก้อน ใช้ต่อสู้รถถัง จะมีเครื่องชี้เป้า ต้องไปรับการฝึกซ้อมกันจนกระทั่งเบ้าตาดำเป็นหมีแพนด้า เพราะต้องเอาตาประกบอยู่กับเครื่องเล็ง พอยิงทีก็จะมีแรงสะท้อนกระแทกถอยหลังที กว่าจะชำนาญก็เบ้าตาเขียวไปทุกคน
นั่นถือว่าทันสมัยมากเพราะถ้าล็อกเป้าได้ โอกาสพลาดมีน้อยกว่า ๑๐ เปอร์เซ็นต์ แต่สมัยนี้เขาก็หาทางป้องกัน อย่างพวกจรวดต่อสู้อากาศยานอากาศสู่อากาศ มีระบบล็อกเป้าอยู่ เขาก็จะปล่อยพวกแผ่นโลหะมาแทน อย่างเช่นว่าอยู่ ๆ ก็โรยแผ่นเคลือบตะกั่วออกมา ไอ้โน่นก็ไม่รู้ว่าเป้าไหนเพราะเครื่องบินเป็นโลหะเหมือนกัน พอเครื่องบินเลี้ยวทำมุมฉกาจหลีกออกไปจากเส้นทาง จรวดก็ไปตามแผ่นโลหะนั้นแทน”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-09-2015 เมื่อ 02:46
|