ถาม : เรานึกถึงดวงกสิณ ถ้าเป็นฌานที่สอง ไม่ต้องนึกหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องเสียเวลาแล้ว ถ้าใจเรายังจดจ่ออยู่ สภาพดวงกสิณที่เปลี่ยนแปลงนั่นแหละ คือสภาพจิตที่ดิ่งลึกเป็นสมาธิสูงไปเรื่อย ๆ เอง
ถาม : แสดงว่าผู้ที่คล่องในฌานสองแล้ว เป็นผู้ที่มีดวงกสิณอยู่ตลอดเวลา ?
ตอบ : สามารถที่จะทรงเองได้ อยู่ในลักษณะที่เรียกว่าเป็นปฏิภาคนิมิต
ถาม : ในทุกอิริยาบถเลย ?
ตอบ : ใช่..แต่คราวนี้ถ้าเผลอก็ลืม ต้องมาตั้งต้นใหม่ ยกขึ้นมาใหม่ เผลอขาดสติเมื่อไรก็ลืม สมมติว่าเผลอหลับก็ลืม ถ้าสภาพจิตหลับกับตื่นรู้ไม่เท่ากัน ดวงกสิณก็จะหาย ก็ต้องเสียเวลายกขึ้นมาใหม่
ถาม : ต้องยกขึ้นฌานหนึ่งใหม่ ?
ตอบ : ใช่...การที่ยกขึ้นมาต้องเริ่มตั้งแต่อุคหนิมิตเลย นั่นเป็นส่วนของแค่ปีติ หรือว่าแค่วิตกวิจารก็ได้ แล้วแต่ความหยาบละเอียดของสภาพจิตของเราในตอนนั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-07-2015 เมื่อ 18:19
|