| 
				  
 
			
			ท่านกล่าวต่ออีกว่า  "มันหนักขึ้นเรื่อย ๆ  แต่หน้าตากิเลสมันเหมือนเดิม  อย่างที่หนัก ๆ อยู่  ก็ไอ้ตัวแสบมันมา  ตีกันจนคุ้น  มันมาบอกว่า  ที่ท่านไปสอน ๆ  ไม่มีประโยชน์หรอก  ผมครอบซ้ำไม่รู้ตั้งกี่ชั้นแล้วมันก็ทำให้ดู 
 (หลวงพ่อยกฝ่ามือขึ้นมา) นี่ท่านเรียกว่าอะไร  สมมติก็เรียกว่ามือ  นี่หลังมือ  หน้ามือ  นิ้วมือ  มีนิ้วโป้ง  นิ้วชี้  นิ้วกลาง  นิ้วนาง  นิ้วก้อย  มีนิ้วโป้งข้อที่  ๑   นิ้วโป้งข้อที่  ๒  ฯลฯ
 ไล่ไปเรื่อยจนกระทั่งเล็บ  มันบอกว่าแค่มือข้างเดียวมันครอบตั้งกี่ชั้นแล้ว
 
 ถ้าหากปัญญาญาณไม่แหลมคมจริง ๆ  ไม่สามารถจะแทงทะลุได้หรอก   มันมาเกลี้ยกล่อมเรา  บอกว่าสอนไปก็เหนื่อยเปล่า  ถ้าเชื่อมันก็โง่ตาย
 
 เราต้องนึกท่านท้าวสหัมบดีพรหม  ท่านมาอาราธนาพระพุทธเจ้า  สัตว์โลกอันธุลีในจักษุมีน้อยนั้นมีอยู่    พึงจักรู้ทั่วถึงธรรมนั้น   ขออาราธนาพระองค์ได้โปรดแสดงธรรมเถิดพระเจ้าข้า
 
 แล้วก็ไปนึกถึงหลวงพ่อวัดท่าซุง  ปีหนึ่งท่านไปอเมริกา  คนตามไป  ๔๒   คน  หลวงพ่อจ่ายค่าเครื่องบินไปสามล้านกว่า  เราก็ว่า หลวงพ่อครับ มันคุ้มหรือครับ  จ่ายเงินเป็นล้าน ๆ  ท่านบอกว่า  ถ้าหากมีคนรู้จักพระนิพพานแม้คนเดียวก็คุ้ม  เงินล้านก็ซื้อพระนิพพานไม่ได้
 
 แล้วก็ย้อนกลับมาคิดว่า หลวงพ่อคิดอย่างนั้นคนเดียว  ท้าวสหัมบดีพรหมท่านบอกว่า สัตว์โลกอันธุลีในจักษุมีน้อยนั้นมีอยู่
 
 เมื่อเห็นตรงจุดนี้  อย่างที่บอกกับโยมเมื่อเช้า  เราได้ทำหน้าที่ของเราแล้ว ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน  ถ้าได้ทุ่มเทความพยายามจนเต็มที่แล้ว ผลมันจะเกิดอย่างไรเราเอาทั้งนั้น  ได้มากเอามาก  ได้น้อยเอาน้อย  ไม่ได้ก็จะเอา "
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 |