เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๘
ขอให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออกให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม
วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ มีญาติโยมถามว่า ปกติภาวนาคาถาเงินล้านเป็นประจำ แต่ไม่ได้ใช้วิธีการนั่งพิจารณา หากแต่ว่าเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เช่น ต้นไม้ ดอกไม้ แล้วพิจารณาว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ทำแบบนี้จะใช้ได้หรือไม่ ? ต้องขอตอบว่าใช้ได้มากกว่าที่คิด
เนื่องจากวิปัสสนาญาณนั้น เราจะต้องกระทำจนกระทั่งเป็นธรรมชาติ คือ ไม่ว่าจะเห็นคน เห็นสัตว์ เห็นวัตถุธาตุสิ่งของใด ๆ ก็ตาม แม้กระทั่งบ้านเรือนตึกรามต่าง ๆ ก็ต้องเห็นว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ปกติธรรมดาของสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเป็นอย่างนั้น คนอื่นเป็นอย่างนั้น สัตว์อื่นเป็นอย่างนั้น วัตถุธาตุเป็นอย่างนั้น แม้แต่ตัวเราก็มีอาการเช่นนั้น ถ้าสามารถพิจารณานี้ได้ สามารถเห็นอย่างนี้ได้ ก็แปลว่าท่านทั้งหลายมีวิปัสสนาญาณที่ทรงอยู่ในใจแล้ว
เราก็แค่ต่อท้ายไปว่า ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมีสภาพเช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเพื่อมีสภาพเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไปเช่นนี้ เราไม่มีความต้องการอีก เราต้องการแห่งเดียวคือพระนิพพาน เมื่อพิจารณาเช่นนี้แล้ว ให้กลับไปเอาใจจดจ่ออยู่ที่พระนิพพาน ภาวนาของเราไปจนกระทั่งมีความรู้สึกว่าเต็มที่ ไม่สามารถที่จะก้าวต่อไปได้อีก ก็หันมาพิจารณาสิ่งต่าง ๆ รอบด้านเช่นนี้อีก
การเห็นทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป จัดเป็นอุทยัพพยานุปัสสนาญาณ ถ้าเห็นเฉพาะความดับอย่างเดียว ว่าทุกสิ่งทุกอย่างต้องเสื่อมสลายตายพังไปหมด ตัวเราก็เป็นเช่นนี้ คนอื่นก็เป็นเช่นนี้ สัตว์อื่นเป็นเช่นนี้ วัตถุธาตุสิ่งของต่าง ๆ ก็เป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนี้เรียกว่า ภังคานุปัสสนาญาณ
หรือพิจารณาเห็นว่าร่างกายของเรานี้ มีแต่โทษมีแต่ภัย ก็คือ มีความหิวความกระหายเป็นปกติ จะกินจะดื่มอย่างไร ร่างกายนี้ก็ยังคงทวงอยู่ตลอดเวลา มีความเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นปกติ ต้องคอยประคับประคองรักษาพยาบาลเพื่อให้ดำรงขันธ์อยู่ได้ มีความสกปรกโสโครกเป็นปกติ ต้องคอยอาบน้ำชำระร่างกายอยู่เสมอ ถ้าหากเห็นดังนี้เรียกว่า ภยตูปัฎฐานญาณ เป็นต้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-06-2015 เมื่อ 17:08
|