| 
				  
 
			
			หลวงพ่อเล่าเรื่องเกาะพระฤๅษีให้ฟังว่า
 "สมัยที่ออกจากวัดท่าซุงใหม่ ๆ เคยชวนหลวงพี่วิรัช ที่ออกมาแล้วไปอยู่ด้วยกัน  ท่านบอกว่าไม่เอา  ผมกลัวมาลาเรีย  ท่านเห็นอาตมาเป็นมาลาเรีย ...(หัวเราะ)...
 
 สมัยก่อนที่เกาะมีหลายท่านไปดู  เพื่อว่าจะไปอยู่ด้วย  แต่ท้ายสุดก็ตัดสินใจไม่อยู่  ก็มีหลวงพี่อาจินต์ หลวงพี่สามารถ (สึกไปแล้ว)   แล้วก็หลวงพี่สมปอง   อาจจะเป็นเพราะว่าตอนนั้นไม่มีอะไรจริง ๆ แล้วอาตมาก็เริ่มทำจากตั้งแต่พื้นดินเปล่า ๆ  บอกพี่ท่านที่เคยไป ให้ไปดูใหม่ว่าน้องเขาทำอะไรบ้าง  เพราะว่าท่านไม่ได้ไปนานแล้ว มั่นใจได้เลยว่าจำทางไม่ได้  เพราะว่าท่านไปกันครั้งเดียว
 
 หลวงตาวัชรชัยไปครั้งสุดท้ายเมื่อปี  ๒๕๓๘  ไปถึงก็  เฮ้ย...ข้านึกว่าเอ็งอยู่ในป่า จะมีกุฏิมุงหญ้า  มุงแฝก   ที่ไหนได้สวยกว่าวัดกูอีก..!
 
 ตรงจุดนี้ทำให้เราเห็นว่า  ในเรื่องของคุณพระพุทธเจ้า  คุณของพระรัตนตรัย  คุณของครูบาอาจารย์ ถ้าหากว่าเราเคารพ  เชื่อมั่น และปฏิบัติตาม เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นแค่เรื่องทางโลกทั้งนั้น ไม่มีอะไรยากเลย  เพราะว่าเรื่องที่ยากจริง ๆ  เป็นเรื่องทางธรรม  ในเมื่อเรื่องทางธรรมยากกว่า  เรื่องทางโลกที่ง่าย  ก็ไม่มีอะไรหรอกที่จะทำไม่ได้ แต่ก็เป็นที่น่าหวั่นเกรงว่า  ถึงเวลาที่ ลาภ  ยศ  สุข  สรรเสริญ เข้ามาแล้วเราจะลืมตัว
 
 บรรดาพระพี่พระน้องที่สึกหาลาเพศไป  เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย  ต้องบอกว่าแพ้ใจตัวเอง  แต่ดีตรงที่ว่า ท่านรู้ว่าพออยู่ต่อแล้วจะเสีย   ท่านก็สึก  ถ้าขืนอยู่ต่อแล้วอาจจะทำให้พระพุทธศาสนาเสียได้  ก็สึกดีกว่า"
 
				__________________........................
 
 เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
 
				 แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-08-2020 เมื่อ 01:34
 |