พระอาจารย์เล่าว่า "เมื่อวันที่ ๒๔ มกราคม พอพุทธาภิเษกมีดหมอเสร็จ ก็ไปขึ้นเครื่องบินเพื่อไปเชียงใหม่ต่อ ทางด้านอาจารย์โต วัดพระบาทปางแฟน ท่านนิมนต์ไว้นานแล้ว แต่ไปไม่ได้สักครั้ง มาครั้งนี้ท่านให้กำหนดวันเอง ก็กำหนดล่วงหน้าไป ปรากฏว่าปฏิทินใหม่ที่ออกมา เวลาที่เขาคิดกับของอาตมาไม่ตรงกัน ก็เลยกลายเป็นวันเสาร์ ๕ ทำให้จัดงานที่วัดเสร็จก็ต้องวิ่งไป เพราะวันอาทิตย์เป็นงานพุทธาภิเษกของท่าน ก็เลยเป็นการเดินทางที่ฉุกละหุกมาก พอพุทธาภิเษกเสร็จก็นั่งเครื่องบินกลับ
ไปตากแดดอยู่ประมาณ ๒ ชั่วโมง เกรียมไปเลย เพราะท่านพุทธาภิเษกในโบสถ์ที่สร้างใหม่ ซึ่งมีแต่ข้างฝา ยังไม่มีหลังคา นั่งตั้งแต่ประมาณ ๘ โมงครึ่งถึง ๑๐ โมงครึ่ง คราวนี้อาตมามานั่งตรงที่ประธาน ซึ่งตรงกับประตูพอดี ทิศตะวันออกเต็ม ๆ เลย โดนแดดเผาจนไม่รู้จะทำอย่างไร บรรดาท่านที่รับผิดชอบงานเดินเข้าเดินออก ก็ไม่มีใครสนใจสักคนหนึ่ง ว่าแดดโดนเต็ม ๆ อย่างนั้น ก็เลยต้องนั่งไม่รู้ไม่ชี้ไปเรื่อย เสร็จจากพุทธาภิเษกนี่แสบหลังเลย "
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-02-2015 เมื่อ 15:21
|