ถาม : แสดงว่าผู้ที่จะให้คุณ เป็นแต่เทวดาเท่านั้น ?
ตอบ : ทางด้านไสยศาสตร์ของเขา ถึงจะทำขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าหากผู้ที่ทำได้อภิญญา ความเป็นทิพย์ของการที่ได้อภิญญา ท่านอธิษฐานจิตสำทับเอาไว้ ผลก็เหมือนกัน เพราะอธิษฐานสำทับด้วยกำลังที่สูงมาก ในเมื่อกำลังของเขาสูงมาก การที่เขาแยกแยะเพื่อช่วยเหลือใครเท่าไรก็สามารถทำได้ เพียงแต่ว่าในลักษณะถ้าทำแบบไสยศาสตร์ เป็นอภิญญาโลกีย์นั้น จะมีวาระที่เสื่อมได้
ถาม : ทีนี้คนที่ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ ถือว่าเป็นมิจฉาทิฐิหรือเปล่า ?
ตอบ : ไม่ใช่ ไม่เชื่อแต่ถ้าหากว่าจิตใจของคุณมีสิ่งที่ยึดมั่นอยู่ อย่างเช่นว่า ยึดมั่นในพระรัตนตรัย ยึดมั่นในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดถือมาประจำตระกูลของตน หรือว่ายึดมั่นในผู้นำหรือว่าเชื่อมั่นในตนเอง เหล่านี้ไม่ถือว่าเป็นมิจฉาทิฐิ
ถาม : นอกจากไม่เชื่อแล้วยังมีความลังเลสงสัย ?
ตอบ : นั่นยิ่งดีใหญ่เลย เพราะว่าถ้าหากขืนเชื่อทีเดียวเขาเรียกว่าโง่ เราสงสัยไว้ก่อนเป็นดี แล้วค่อย ๆ พิสูจน์ไปจนกว่าจะเชื่อ อย่างตัวของอาตมาเอง กว่าจะก้าวมาถึงระดับนี้ได้ ต้องใช้เวลาพิสูจน์แบบหัวทิ่มหัวตำอยู่ ๑๑ ปีเต็ม ๆ
ถาม : นึกว่าเข้าข่ายลบหลู่ดูหมิ่น ?
ตอบ : ไม่หรอกจ้ะ เขาไม่เรียกว่าดูหมิ่น ความขี้สงสัยเป็นปกติอยู่แล้ว อย่างเช่นว่า ทุกวันนี้เวลาไปเจอบางสำนักของเขา ที่มีพฤติกรรมต่างจากความเคยชินของเรา อาตมาเองก็ตั้งข้อสงสัยไว้เหมือนกัน ต้องระวังไว้ก่อน ยังไม่เชื่อทีเดียว จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าเขาดีจริง ถ้าเขาดีจริงค่อยยอมรับ
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๔
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2016 เมื่อ 03:55
|