ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 27-12-2014, 08:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,638 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า รวมความรู้สึกทั้งหมดไว้ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ตามอัธยาศัย

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๓๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ เป็นการปฏิบัติธรรมประจำเดือนธันวาคมวันสุดท้าย การปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ขอให้ทุกคนจำให้แม่นว่า พระพุทธเจ้าสอนให้เราปฏิบัติในไตรสิกขา คือการศึกษาในศีล ในสมาธิ ในปัญญา เรื่องของศีลพวกเราคงไม่มีอะไรหนักใจแล้ว เพราะว่าส่วนใหญ่สามารถรักษาศีล ๕ ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ มีจำนวนไม่น้อยที่รักษาศีล ๘ เป็นปกติ และอีกหลายท่านก็พยายามที่จะรักษากรรมบถ ๑๐ แม้ว่าจะขาดตกบกพร่องบ้าง ก็พยายามที่จะทำให้ได้ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่น่าสรรเสริญ ดังนั้น..ในเรื่องของอธิสีลสิกขา คือการศึกษาในศีลนั้น เราก็แค่ทบทวนศีลทุกสิกขาบทของเราให้สมบูรณ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล

ในเรื่องของสมาธิ ส่วนใหญ่แล้วพวกเราจำนวนหนึ่ง มีความชำนาญในการเข้าสมาธิ เมื่อถึงเวลาก็สามารถทรงสมาธิได้เร็ว แต่ไม่สามารถที่จะทรงสมาธิแบบตั้งเวลาได้ และไม่สามารถที่จะออกสมาธิได้ทุกเวลาตามที่ตนต้องการ ตรงจุดนี้จำเป็นที่เราจะต้องซักซ้อมการเข้าออกสมาธิ จนกระทั่งมีความคล่องตัว นึกเมื่อไรก็เข้าหรือออกได้เมื่อนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฌานตามลำดับ การเข้าฌานสลับไปมา การที่เราจะเข้าฌานในขณะที่เราทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือแม้กระทั่งว่าการที่เราสามารถเข้าฌานได้ ในลักษณะของการดับเสียซึ่งสัญญาและเวทนาทั้งปวง เป็นต้น

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ต้องมีการซักซ้อมอย่างจริงจัง เพื่อที่ถึงเวลา รัก โลภ โกรธ หลง เข้ามา ในชั่วเสี้ยววินาทีที่เรารู้ตัว เราสามารถยกจิตขึ้นสู่ระดับฌานได้ทันทีทันใด ถ้าเป็นดังนั้น รัก โลภ โกรธ หลง ก็จะทำอันตรายเราไม่ได้ ถ้าเป็นดังนี้จึงเรียกได้ว่าเราศึกษาในส่วนของอธิจิตสิกขา คือในส่วนของการปฏิบัติสมาธิภาวนา เพียงพอที่จะรักษาตัวได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-12-2014 เมื่อ 21:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา