กรรมที่ทำให้มีโรคน้อย
			 
			 
			
		
		
		
			
			ถาม :  (เกี่ยวกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ) 
ตอบ  :  มีข้อคิดอยู่อย่างหนึ่งว่า  ถ้าเราไม่ได้สร้างกรรมไว้ก็ไม่ต้องไปกลัว    ตรงนี้สำคัญที่ว่ามีหรือที่ไม่ได้สร้างกรรมไว้เลย ?   
 
ถาม  :  ก็คือ ถ้ารักษาได้ก็รักษา  รักษาไม่ได้ก็ปล่อย ? 
ตอบ :   จริง ๆ  แล้วร่างกายของเราเองปรับตัวได้   สร้างภูมิต้านทานโรคได้ เพียงแต่ว่าบางอย่างก็แรงเกินกว่าที่จะปรับไหว   พอเขาปรับได้ก็กลายเป็นภูมิต้านทาน   
 
พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า  อโรคยา ปรมา ลาภา  ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ   ตัวอย่างเรื่องนี้ต้องดูตัวอย่างพระพากุละเถระ    
 
พระพากุละเถระเป็นพระที่ได้รับการบันทึกเอาไว้ว่า มีอายุยืนยาวที่สุดในพระไตรปิฎก  คือ  อายุ  ๑๕๐  ปี    แล้วท่านเบื่อ  อยู่นานเกินไป  ท่านก็เลยตัดสินใจเข้าสมาบัติแล้วไปเลย   เราก็มานึกถึงอายุ  ๑๕๐  ปี  ก็น่าจะประมาณ  ๓ ช่วงอายุคนเป็นอย่างน้อย  คนที่ล้อมรอบข้าง  เหมือนกับว่าห่างไกลมาก  สมมติตอนแรกก็มีพ่อแม่พี่น้อง  ถัดไปก็รุ่นลูกรุ่นหลาน  รุ่นเหลน  ไล่ไปเรื่อย   เหมือนกับความสัมพันธ์จืดจางห่างไปเรื่อย ๆ   คนที่อยู่ก็ไม่ได้มีความใกล้ชิดสนิทสนมเหมือนตั้งแต่แรก   ใครที่คิดว่าอายุยืนนี่เป็นของดี  ไม่ใช่ของดีหรอก   
 
พระพากุละเกิดมา  พี่เลี้ยงเอาไปล้างตัวที่ริมแม่น้ำ  ปลาใหญ่โผล่มาฮุบตูมไปเลย   ท่านบอกว่าด้วยแรงบุญทำให้ปลานั้นกระวนกระวาย   ไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งได้  ว่ายเตลิดเปิดเปิงข้ามเมืองไปติดข่าย  โดนเขาจับขึ้นมา   คนใช้บ้านเศรษฐีเห็นว่าปลาใหญ่เหลือเกินน่าเอาไปให้เจ้านาย  ก็เลยซื้อไปทำอาหาร  พอเอามีดกรีดท้องปลา  เด็กก็ดิ้น  ปรากฏว่าเด็กไม่เป็นไรเลย   เรื่องของบุญรักษา  ถ้าเป็นคนอื่นอย่างน้อยก็โดนย่อยเปื่อยไปครึ่งตัวแล้ว    
 
ทีนี้คนก็แตกตื่นกันทั้งเมือง  ว่าเด็กอะไรอยู่ในท้องปลา   ข่าวก็ลือไปถึงบ้านเกิดของพระพากุละ   พ่อแม่ก็ตามมาทวงลูก   ทางด้านนี้ก็ไม่ให้เพราะไม่เคยมีลูก  จู่ ๆ มีปลาประทานมาให้  เรื่องอะไรจะคืน 
 
คราวนี้เศรษฐีสมัยก่อนบริวารเยอะมาก    อย่างธนัญชัยเศรษฐีพ่อของนางวิสาขา   สร้างเมืองทั้งเมืองเพื่อให้บริวารตนเองอยู่  คือ  เมืองสาเกต 
 
เมื่อเป็นดังนั้น  ทั้งสองฝ่ายก็เลยมีการยกทัพเพื่อจะชิงตัวพากุละกุมาร  ต่างคนต่างพาลูกน้องมาด้วย   พระเจ้าแผ่นดินท่านก็เลยต้องมาไกล่เกลี่ย     ในที่สุดก็ตกลงกันได้ว่า ผลัดกันเลี้ยงคนละสามเดือน   เขาก็เลยตั้งชื่อว่า พากุละกุมาร  แปลว่า  กุมารสองตระกูล   (คำว่า พา , วา , ทวา  มาจากรากศัพท์เดียวกัน  แปลว่า  สอง)    
 
ความที่ท่านสร้างบุญมาแต่เดิม  ทำให้ไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยเลย   แต่ว่าบุญบารมีที่ท่านทำมา  ทำให้ท่านเห็นทุกข์  ก็เลยบวชกลายเป็นพระอรหันต์  พระพุทธเจ้าตั้งไว้เป็นเอตทัคคะ  คือ ผู้เป็นเลิศกว่าผู้อื่น   ในฐานะที่เป็นผู้มีโรคน้อย  
 
ในบาลีบอกว่านอกจากความหิว  ความกระหายซึ่งถือว่าเป็นโรคประจำกายแล้ว  โรคอื่นไม่เคยเป็นเลย  แม้แต่สมอชิ้นเดียวที่จะต้องฉันเพื่อรักษาโรคก็ไม่เคย  อายุยืนเหลือล้ำ    ๑๕๐ ปี ก็ยังอยู่สบาย ๆ   ท่านเองก็เบื่อ  สอนลูกศิษย์ครั้งสุดท้ายเสร็จ  ก็เข้าห้อง นั่งกรรมฐานแล้วไปเลย  อรรถกถาอธิบายว่า  พระพากุละที่อายุยืนและมีโรคน้อย  เพราะสร้างวัจกุฎี (ส้วม) ถวายพระภิกษุสงฆ์ สร้างส้วมเป็นการปลดทุกข์ให้คนอื่น ท่านเองก็เลยไม่ต้องทุกข์ 
 
ถ้าใครคิดจะเกิดใหม่ ไปช่วยกันสร้างส้วมก็ได้นะ  จะได้ไม่ต้องป่วย   
 
พระพุทธเจ้าท่านจึงได้กล่าวว่า กรรมวิบาก  (การส่งผลของกรรม)  ไม่ว่าจะดีหรือชั่ว  อย่าเสียเวลาไปคิด   ถ้าเราไม่เข้าใจในยถากัมมุตาญาณจริง ๆ  จะกลุ้มใจเปล่า  ๆ ว่าอะไรจะส่งผลอะไรได้พิลึกพิลั่นขนาดนั้น  
 
 
เทศน์ที่บ้านอนุสาวรีย์  (ช่วงเช้า) 
๕  กรกฎาคม  ๒๕๕๒
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2014 เมื่อ 10:34
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |