30-11-2014, 02:52
|
|
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 4,805
ได้ให้อนุโมทนา: 270,357
ได้รับอนุโมทนา 840,847 ครั้ง ใน 12,834 โพสต์
|
|
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกัมพูชา
ถัดมามีรูปปั้นช้างเผือกเชือกใหญ่เท่าช้างจริง ๆ อยู่กลางห้อง ลูกปุ๊กวิ่งเข้าไปขอให้แม่ป๋อมช่วยถ่ายรูปกับช้างเผือกให้ด้วย รอบข้างเป็นกูบและสัปคับสำหรับผูกบนหลังช้างแบบต่าง ๆ มีทั้งแบบเปิดเหมือนกับเตียงโล่ง ๆ แบบมีหลังคาปิดทั้งทรงจั่วและทรงโค้ง แบบเปิดประกอบอาวุธและสัปทนสำหรับออกรบ แบบมณฑปทรงสูง น่าจะเอาไว้อัญเชิญพระพุทธรูปไปบนหลังช้างเวลามีเทศกาลงานพิธีสำคัญ...
สุดห้องก็เป็นทางออกพอดี เดินต่ออีกนิดเดียวก็พ้นกำแพงพระราชวังออกมายังท้องถนน ช่วงเวลานี้ถนนค่อนข้างจะโล่ง เมื่อพวกเราเดินข้ามถนนไปยังที่จอดรถ อาตมาจึงหยุดถ่ายรูปกลางถนนได้เลย พี่ปราณีชี้ไปยังอาคาร "ทรงไทย" สวยงาม หลังไม่ใหญ่นัก ๒ หลัง ที่อยู่ติดริมแม่น้ำโขง บอกว่า "ไปไหว้เจ้าพ่อหลักเมืองกันก่อนค่ะ" ว่าอะไรว่าตามกันอยู่แล้ว พวกเราจึงเดินไปยังอาคารหลังทางขวามือ (เมื่อหันหน้าลงแม่น้ำโขง) ก่อน...
รอบเทวาลัย "ทรงไทย" เล็ก ๆ หลังนี้ มีรั้วปูนปั้นล้อมรอบ เปิดช่องให้เข้าได้ทั้งสี่ทิศ ข้างในมีเทวรูปพระนารายณ์องค์ใหญ่ สูงเกือบจรดเพดาน ปกติรูปปั้นพระนารายณ์ จะมี ๔ หรือ ๘ กร แต่องค์นี้กลับเลือกมัชฌิมาปฏิปทามี ๖ กรแทน ทั้งซ้ายขวาขององค์เทวรูปเป็นเทพบริวารที่นั่งแปะอยู่กับพื้น ตรงหน้าเทวรูปเป็นเครื่องบูชามากมาย ทั้งมะพร้าวอ่อนที่มีดอกบัวปักอยู่ผลละ ๓ ดอก กล้วยน้ำว้า และดอกบัวที่อยู่ในแจกันดินเผาขนาดเกือบโอบ แถมยังมีถังอะลูมิเนียมอีก ๒ ใบ ตั้งไว้รอรับดอกบัวได้อีกมาก...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2014 เมื่อ 07:52
|