อยู่กับสัตว์สบายใจกว่าอยู่กับคนเยอะเลย   โดยเฉพาะหมา เพราะว่าเขาไม่มีมายา   นึกอย่างไรก็ทำอย่างนั้น  ชอบก็คือชอบ  ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ   เขาจะแสดงออกชัดเจนเลย    
 
คนเรามีมายาประกอบไปด้วย  พอมีมายาประกอบไปด้วย ก็เลยทำให้อ่านยาก  เพราะซับซ้อนหลายชั้นหลายเชิง   ขนาดรู้ทันแล้ว  ถามว่าอย่างนั้นใช่หรือไม่ ? ..ไม่ใช่..   อย่างนี้หรือเปล่า ? ..เปล่า..  ปฏิเสธไว้ก่อนเดี๋ยวเสียเชิง    เรื่องตรงนี้เป็นเรื่องของสักกายทิฏฐิและมานะที่หลายซับหลายซ้อน   ต้องเรียกว่าระบบป้องกันตัวเองดี  แต่ความจริงกิเลสเขาสอน    ทั้งหมดมารวมลงที่ว่ารักตัวเอง   กลัวเสียหน้า   กลัวคนอื่นรู้ทัน  ท้ายสุดก็มาลงที่ตัวเอง 
 
  เราจะเห็นได้อย่างหนึ่งว่า  ในความไม่รู้ของสัตว์  เลยทำให้เขาแสดงอาการออกมาอย่างนั้น  เราหัวเราะเล่นเป็นของสนุก  ลองนึกถึงข้างบนเขามองเราลงมาบ้างสิ....   มนุษย์ที่ประกอบด้วยความไม่รู้  ในความเป็นเทวดา เป็นพรหม เขาก็เห็นตลกเหมือนอย่างที่เราเห็นสัตว์   ขายหน้าไหม ?  ฉะนั้น..หัดทำอะไรที่ฉลาด ๆ  หน่อย  
 
เห็นความดีของเขา  ขณะเดียวกันก็เห็นจุดบกพร่องของเขาด้วย  เสร็จแล้วก็นำมาสอนใจเรา  ถ้าพลาดก็เป็นอย่างเขา   ขณะเดียวกันถ้าเป็นอย่างเขาก็ยังดี กลัวว่าจะเป็นต่ำกว่าเขา..   
 
เป็นต่ำกว่าเขานี่ก็ต้องลำบากมาก กว่าจะหลุดมาได้  ลองไปอ่านในเปตวัตถุ  แต่ละตัวสุดยอดเลย  เปรตกินลูก  คลอดลูกมาเมื่อไรก็ฉีกเนื้อกินหมด   ปรากฏว่าในสมัยที่เป็นมนุษย์อยู่  เป็นหมอตำแยรับจ้างทำแท้ง  นั่นแค่เศษกรรมนะ    การทำให้ชีวิตเขาตกล่วงไปต้องลงนรกก่อน   แล้วเศษกรรมก็มาเป็นเปรตกินลูก 
 
 
เทศน์ที่บ้านอนุสาวรีย์ 
๔ กรกฎาคม ๒๕๕๒
		 
		
		
		
		
		
		
			
				__________________ 
				........................ 
 
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง 
 จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
			 
		
		
		
		
		
			
				  
				
					
						แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-09-2013 เมื่อ 09:23
					
					
				
			
		
		
		
	
	 |