ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-11-2014, 18:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,638 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

กิตติศัพท์ความสำรวมอินทรีย์ของท่านเลื่องลือไปไกล พระราชาจึงส่งทูตไปอาราธนาให้เข้าวัง หลวงพ่อท่านก็เดินทางไปตามที่พระราชาอาราธนา ถึงประตูวังทหารยามถามว่าท่านมาทำอะไร ? หลวงพ่อท่านนั้นก็กล่าวว่า “มาเฝ้าพระราชา มหาบพิตร” ทหารยามบอกว่า “อย่าใช้คำว่ามหาบพิตร เพราะเราเป็นแค่ทหารเฝ้าประตูเท่านั้น” หลวงพ่อท่านก็ว่า "ไม่อาจจะทราบได้ เพราะอาตมาไม่ได้มองว่าโยมเป็นใคร อาตมารู้อยู่อย่างเดียวว่าพระราชาเป็นผู้อาราธนามา ดังนั้น..ผู้ที่พูดคุยด้วยน่าจะเป็นพระราชา"

เมื่อเข้าไปถึงด้านใน มหาอำมาตย์ออกมาต้อนรับ ถามว่าหลวงพ่อมาธุระอะไร ? ท่านก็บอกว่า “มาเฝ้าพระราชา มหาบพิตร” มหาอำมาตย์ก็บอกว่า "อย่ากล่าวเช่นนั้น เพราะเราเป็นแค่มหาอำมาตย์ ไม่ใช่พระราชา ไม่ควรใช้คำว่ามหาบพิตร" หลวงพ่อท่านก็ยืนยันว่า ผู้ที่อาราธนาท่านมาคือพระราชา ดังนั้น..จึงใช้คำนี้

การสำรวมอินทรีย์ในลักษณะเยี่ยงนี้ จะทำให้อันตรายต่าง ๆ จากรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และธรรมารมณ์ ไม่สามารถที่จะกินใจของเราได้

ข้อที่ ๒ ต้องยึดหลักโภชเนมัตตัญญุตา คือรู้จักประมาณในการกินแต่พอสมควร ถ้าถามว่าประมาณในการกินแต่พอสมควรเป็นอย่างไร ? ให้ยึดตามหลักสายพระป่า ก็คือฉันมื้อเดียว ถ้ายึดตามหลักของอุบาสกอุบาสิกาคือกินแค่ ๒ มื้อ งดอาหารมื้อเย็น เพราะว่าร่างกายที่ว่างจากอาหารนั้น ภายในร่ายกายไม่ล้นไปด้วยสารอาหาร เลือดลมก็ปลอดโปร่ง เดินสะดวก เมื่อภาวนาจิตก็สงบได้ง่าย ไม่ก่อให้เกิดราคะ เมื่อเป็นเช่นนั้น การที่เรารู้จักประมาณในการกิน จึงต้องสังเกตดูความพอเหมาะพอดีของตน ซึ่งถ้าหากว่ายึดถือในหลักโภชเนมัตตัญญุตาแล้ว ๒ มื้อถือว่าพอเพียงที่สุด

ข้อที่ ๓ ชาคริยานุโยค การปฏิบัติหลักธรรมของผู้ตื่นอยู่ คือมีสติอยู่เสมอ เมื่อมีสติสมบูรณ์ เราก็จะสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเราได้ เมื่อมีสติสมบูรณ์ เราก็จะรู้จักประมาณในการกินของเราเอง ดังนั้น..การที่พวกเรามาภาวนาอยู่นี้ ก็เป็นหลักการสร้างสติอย่างหนึ่ง เนื่องจากว่าเราดูลมหายใจเข้าออก ที่เรียกว่าอานาปานุสติ คือการระลึกถึงลมหายใจเข้า ระลึกถึงลมหายใจออกให้เป็นปกติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-11-2014 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา