
18-11-2014, 02:20
|
 |
ผู้ตรวจการณ์เว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
|
|
วันที่สมัคร: Jun 2009
ข้อความ: 5,062
ได้ให้อนุโมทนา: 284,214
ได้รับอนุโมทนา 854,777 ครั้ง ใน 13,218 โพสต์
|
|
จะ "ถอดรูป" ให้ชัดเจนกว่านี้ก็ไม่ได้ เกรงใจเจ้าหน้าที่ของเขา
เมื่อสวดมนต์และอุทิศส่วนกุศลแล้ว อาตมาก็เดินเลี่ยงออกด้านข้าง หันไปสบตา "ยายจ้อ" พอเธอผงกหัวแบบว่า "ได้เลย" ก็ยกกล้องขึ้นถ่ายรูป แล้วเก็บเข้ากระเป๋าแบบไม่รู้ไม่ชี้ ไม่ทราบว่าเป็นเพราะฝีมือคุณเธอช่วยบังตาให้ หรืออาตมามือไวจนเจ้าหน้าที่มองไม่ทันก็ไม่รู้ ? ทำให้ถ่ายรูปได้แบบไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็เดินเลี่ยงออกจากคณะ ปะปนไปกับนักท่องเที่ยวอื่น ๆ เผื่อว่าโดนจับได้ จะได้ไม่พาให้คนอื่นโดยเฉพาะพี่ปราณีกับพี่วิไล "ซวย" ไปด้วย...
เมื่อเลี่ยงออกมาด้านข้าง จึงเห็นว่า "พระแก้วมรกต" ของเขมร เป็นแก้วสีเขียวอมเหลืองค่อนข้างใส องค์พระหน้าตักประมาณ ๑๒ นิ้ว ซึ่งหน้าตักค่อนข้างกว้างเหมือนกับเป็นศิลปะล้านช้าง นอกจากพระเกตุมาลาและฐานพระที่หุ้มทองกับสังวาลทองคำเล็ก ๆ เส้นหนึ่งแล้ว ทั้งองค์ไม่มีเครื่องทรงอื่น ๆ เลยแม้แต่ชิ้นเดียว ไม่ทราบว่าตั้งใจอวดเนื้อแก้วขององค์พระ หรือว่าไม่มีงบประมาณในการสร้างเครื่องทรงกันแน่ ? เหตุที่คิดแบบนี้เป็นเพราะว่า ทางเขมรตั้งใจเลียนแบบไทยไปทุกอย่าง แม้แต่บุษบกประดิษฐานพระแก้วก็ถอดแบบเอาไป ถึงจะฝีมือหยาบกว่ามากก็เถอะ แต่ทำไมถึงไม่มีเครื่องทรงสามฤดูก็ไม่รู้ ? อาจจะไม่มีช่างฝีมือระดับสุดยอดก็เป็นได้...
อาตมาชำเลืองดูเจ้าหน้าที่ พร้อมกับเดินดูรายละเอียดโดยรอบไปด้วย จนมาถึงด้านหลังข้างซ้าย จึงได้โอกาส "ถอดรูป" ขององค์ "พระแก้วมรกต" อีกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีผู้คอยช่วยเหลืออยู่ แต่ถ้าไม่ต้องพึ่งพิงผู้อื่นอาตมาก็ยินดีที่จะทำเองมากกว่า เมื่อได้รูปมาแล้วอาตมาก็เดินชิดผนังไปชมพระพุทธรูปและของมีค่าในตู้กระจกต่อไป...
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2014 เมื่อ 09:24
|