มีอยู่วันหนึ่งอาตมากำลังป่วย เขามาร้องเพลงขอนไม้กับเรือให้ฟัง แล้วบอกว่า “ไอ้ท่านก็เป็นแค่ขอนไม้ผุ ๆ เท่านั้นแหละ จะไปส่งคนขึ้นเรือขึ้นฝั่งได้อย่างไร ? ตัวเองยังจะไปไม่รอดเลย จะไปส่งใครได้” ร้องเพลงเพราะด้วยนะ สำเนียงปักษ์ใต้แท้เลย เรื่องพวกนี้อยากจะบอกกับพวกเราว่า กิเลสต่าง ๆ ที่ร้อยรัดเราติดอยู่กับโลกนี้ มีแต่จะหนักขึ้นทุกที ๆ ถ้าเราไม่ตั้งใจเด็ดขาดจริงจังสู้กับกิเลส โอกาสที่จะรอดก็ยาก
อาตมามีลูกศิษย์คนหนึ่ง ส่งไปเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยน้ำขาว บอกว่าจะสึกมา ๒๐ กว่าครั้ง จนป่านนี้ยังไม่ได้สึกเสียที เมื่อวานก่อนมาถึงก็บอกว่า “หลวงพ่อครับ...ผมขออนุญาตอยู่ไปก่อนเรื่อย ๆ นะครับ” เลยบอกไปว่า “เออ..ถ้าไม่เด็ดขาดอย่างนี้ ชาตินี้ก็เอาดีไม่ได้หรอก” จะสึกก็สึก จะอยู่ก็อยู่สิวะ ชักเข้าชักออกอยู่นั่นแหละ อาตมาจะทำงานทำการอะไรก็วางแผนไม่ได้ เพราะเดี๋ยวก็จะอยู่เดี๋ยวก็จะไม่อยู่
ลักษณะเดียวกันกับการปฏิบัติของเรา ถ้าเราไม่มีความเด็ดขาด ตัดบัวเมื่อไรก็เหลือใย ดึงเท่าไรใยก็ยืดติดอยู่นั่นแหละ แบบนั้นไปไหนไม่รอด ตัดก็คือตัด ไม่ก็คือไม่ ได้ก็คือได้ ให้รู้เรื่องกันไปเลย นักปฏิบัติอย่างเรามีแต่ต่ำสุดกับสูงสุด ตรงกลางไม่มี..ขอยืนยัน ถ้าไปพระนิพพานไม่ได้ก็ให้ลงอเวจีมหานรกไปเลย..! หมดเรื่องหมดราวไป ถ้าสามารถรักษากำลังใจในลักษณะอย่างนี้ ทำอะไรก็พอจะได้ประโยชน์เห็นหน้าเห็นหลังบ้าง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-11-2014 เมื่อ 12:12
|