"ตอนเด็ก ๆ ที่โดนฉีดยาบ่อยจนกลัวเข็ม เพราะว่าเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นประจำ มารู้ตอนโตแล้ว หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า “แกเป็นทหารมาทุกชาติ ฆ่าเขามาทุกชาติ เศษกรรมปาณาติบาตจะทำให้ป่วยบ่อย ให้ไปปล่อยสัตว์ที่เขาจะฆ่า อย่างเช่นปลาในตลาด เดือนละตัวสองตัว ให้ทำเป็นประจำแล้วจะบรรเทากรรมตรงนี้ได้”
อาตมาทำครั้งแรกวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๒๙ แล้วก็ปล่อยติดต่อกันมาทุกเดือนจนบัดนี้ เพิ่งจะมีปีนี้ที่รู้สึกว่าอาการป่วยห่างไป คำว่าห่างคือมีเวลาให้หายใจบ้าง ก็น่าดูเหมือนกันนะ เกือบ ๓๐ ปีกว่ากรรมจะยอมถอยให้หน่อย ตอนแรกก็ไม่ยอมปล่อย เพราะว่าการปล่อยชีวิตสัตว์เป็นการต่ออายุ อาตมาไม่ต้องการจะอยู่ แล้วจะปล่อยไปทำไม ? หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ”แกอย่าเพิ่งเข้าใจผิด การปล่อยชีวิตสัตว์จะเป็นการต่ออายุต่อเมื่อเรามีอุปฆาตกรรม”
อุปฆาตกรรม คือ กรรมเก่าที่เคยฆ่าคน ฆ่าสัตว์ใหญ่ในอดีตตามมาทัน อาจจะทำให้เราถึงแก่ชีวิต ถ้าอย่างนั้นจะเป็นการต่อชีวิตของเรา แต่ถ้าไม่มีกรรมเก่าเข้ามา การปล่อยชีวิตเขาให้รอด ให้ได้รับความสุข ความสะดวกสบาย ต่อไปทำอะไรก็จะสะดวกสบายไปด้วย อาตมารู้สึกว่าระยะหลังทำอะไรก็สะดวกขึ้น มีคนช่วยงานมากขึ้น งานบางอย่างไม่น่าจะมีคนช่วย อยู่ ๆ ก็มีมาพอดี สรุปว่าปล่อยชีวิตสัตว์มาจนนับจำนวนไม่ถ้วน เพราะถ้าจะไปปล่อยทีละตัวสองตัว ก็เห็นตัวอื่นรอชะตากรรมเดียวกันอยู่ พอไปจึงมักจะเหมาหมดตลาดเลย
ถ้าเอาคำของหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นเกณฑ์ว่าเป็นทหารมาทุกชาติ ก็น่าจะใช่ เพราะว่าชาตินี้จริง ๆ ไม่ได้คิดจะไปเป็นทหารก็ยังต้องไปเป็น เป็นไปทำไมวะ ? เคยดูย้อนหลังไปก็สารพัด แต่ละชาติ ทำดีแค่ไหนก็เสมอตัว พลาดเมื่อไรก็หิ้วหัวมาได้เลย ความจริงน่าจะลองเกิดอีกสักชาติ ว่าตัวเองจะต้องเป็นทหารอีกหรือเปล่า ? จะได้หายสงสัย
ความหมายของคำว่าทหารคือคนหนุ่ม ดังนั้น..จะอ่อนแอไม่ได้ ต้องแข็งแรงอยู่เสมอ ไปนึกถึงพลเอกอิสรพงศ์ หนุนภักดี ท่านว่า “ไอ้น้องโว้ย..พี่เหนื่อยฉิบหา..เลย ขอนอนหน่อยเถอะ” อยู่ต่อหน้าลูกน้องทำเป็นเก่ง ลับหลังเข้าที่พักนายทหารได้ แผ่หลาสี่สลึงเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-10-2014 เมื่อ 19:15
|