ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 09-10-2014, 11:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 32,395
ได้ให้อนุโมทนา: 157,983
ได้รับอนุโมทนา 4,479,638 ครั้ง ใน 36,004 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุกร์ที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๗

ให้ทุกคนขยับตัวนั่งในท่าที่สบายของตน ตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้สึกทั้งหมดไว้ตรงหน้าของเรา หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๗ วันนี้มีญาติโยมถามว่า "อาการทรงฌานเป็นอย่างไร ?" ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เพราะว่าเป็นผู้ที่ปฏิบัติกรรมฐานมานาน น่าจะมีความเข้าใจว่า แต่ละขั้นแต่ละอารมณ์ของการทรงฌานเป็นอย่างไร กลับไม่มีความเข้าใจ แล้วต้องมาสอบถาม

การที่เราจะทรงฌานได้นั้น อันดับแรก..ต้องไม่ทิ้งลมหายใจเข้าออก ถ้าไม่มีลมหายใจเข้าออก ทำอย่างไรก็ทรงฌานได้ยาก หรือทรงได้ก็จะสลายตัวไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว การทรงฌานนั้น ถ้าในส่วนของรูปฌานมีอยู่ ๔ ระดับ คือปฐมฌาน หรือฌานที่ ๑ สภาพจิตจะประกอบไปด้วย วิตก วิจาร ปีติ สุข และเอกัคตารมณ์

วิตก คือ การที่เราคิดอยู่นึกอยู่ว่าเราจะภาวนา วิจาร คือ ตอนนี้เรากำลังภาวนาอย่างไร ลมหายใจแรงหรือเบา ยาวหรือสั้นก็รู้อยู่ ปีติ คือ สภาพที่ปรากฏความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งใน ๕ อย่างขึ้น ได้แก่ ๑. ขนลุก ๒. น้ำตาไหล ๓. ร่างกายโยกไปโยกมา หรือบางทีก็ดิ้นตึงตังโครมครามไปเลย ๔. ตัวลอยขึ้นไปทั้งตัว ๕. รู้สึกว่าตัวพอง ตัวใหญ่ ตัวแตก ตัวระเบิด หรือเห็นแสงเห็นสีต่าง ๆ อาการเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ก็คือสภาพจิตที่กำลังเข้าถึงปีติ

ลำดับถัดไปเมื่อจิตดำเนินลึกเข้าไปอีกนิดหนึ่ง ก็จะเกิดความสุขเยือกเย็นอย่างที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน เนื่องจากในขณะจิตนั้น กำลังสมาธิมีสูงพอที่จะกด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงได้ชั่วคราว รัก โลภ โกรธ หลง ที่เป็นไฟใหญ่ ๔ กอง เผาเราอยู่ตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาไฟดับลง เราจะรู้สึกสบายอย่างไรนั้น ไม่สามารถที่จะอธิบายเป็นคำพูดได้ ท้ายสุด เอกัคตารมณ์ คือ กำลังใจที่ตั้งมั่นเป็นหนึ่งเดียว จิตจะแน่วแน่อยู่เฉพาะหน้า ลืมตาอยู่ต่อให้เห็นคนเดินไปเดินมา หรือเห็นใครทำอะไรที่น่าหวาดเสียวอยู่ใกล้ ๆ จิตใจก็ไม่วอกแวกคลอนแคลนตามไป หรือได้ยินเสียงอะไรก็ไม่เกิดความสนใจในเสียงนั้น ความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา

ถ้าหากว่าอาการทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แปลว่าท่านกำลังอยู่ในฌานที่ ๑ หรือที่บาลีเรียกว่าปฐมฌาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 31-10-2014 เมื่อ 22:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 65 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา