พระอาจารย์กล่าวว่า "อะไรที่มันงอก ๆ กินแล้วระวังโรคเก๊าท์ไว้ด้วย สารอาหารต้องเต็มที่เขาถึงงอกได้ ก็พอ ๆ กับการกินอาหารทะเล หรือกินไก่ อาตมาไม่ได้ตำหนิวิทยาศาสตร์ แต่ตำหนิคนที่เอาวิทยาศาสตร์ไปใช้ อย่าง...(น้ำผลไม้สกัดเข้มข้น)...ใช่ไหม ? ที่เอาน้ำผลไม้หลายอย่าง แต่ละอย่างล้วนแล้วแต่ดี ๆ ผสมกัน ระวังไว้ด้วย..ถ้าใครแพ้ กินเข้าไป จะคันคะเยอไปทั้งคืน
เขาทำในห้องวิจัยว่า น้ำผลไม้อย่างนี้ดีอย่างนี้ ๆ เขาก็เอาหลาย ๆ อย่างที่ดี ๆ มารวม ๆ กัน แต่เขาไม่เข้าถึงเรื่องของธาตุต่าง ๆ สารต่าง ๆ ที่มีการหักล้างกัน มีการหนุนเสริมกัน ถ้าหักล้างกันก็จะเป็นพิษ ถ้าหนุนเสริมคุณภาพจะรุนแรงมากกว่าปกติ แล้วเรากินเข้าไปโดยไม่รู้ เพราะวิทยาศาสตร์เขาว่าดี แต่ดีแค่ไม่กี่คน คนที่ร่างกายไม่ดีนี่จะแย่ไปเลย
ฉะนั้น..เราต้องเชื่อพระพุทธเจ้าว่ามัชฌิมาปฏิปทา ทุกอย่างต้องพอเหมาะพอดี มากเกินไปก็ไม่ดี น้อยเกินไปก็ไม่ดี เรื่องของวิทยาศาสตร์บางทีเขาคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้า ค้นพบอย่างนั้น ค้นพบอย่างนี้ ท้ายที่สุดสิ่งที่ค้นพบมา เอามาใส่รวมกันเมื่อไรก็บรรลัยหมด โบราณเขายังใช้คำว่า "ลางเนื้อชอบลางยา" คนบางคนเหมาะกับยาบางอย่าง ป่วยด้วยโรคเดียวกัน คนนี้กินยาตัวนี้หาย แต่ทำไมอีกคนกินไม่หาย ?
คนป่วยด้วยโรคเดียวกัน คนละเพศก็มีความต่างแล้วในการให้ผลของยา คนละขนาดน้ำหนักตัว คนละอายุ ก็มีความต่างกัน หมอโบราณจึงจัดยาตามธาตุ ตามลักษณะ ตามอายุ แต่ว่าปัจจุบันหมอฝรั่งมาถึง อย่างนี้กินหาย ก็ใส่เข้าไปอย่างเดียว แล้วเขาไม่สงสัยหรือว่าโรคอีโบล่า ทำไมบางคนเป็นแล้วหาย บางคนเป็นแล้วตาย ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2014 เมื่อ 09:06
|